"เตเวซ" เปิดตัวซบยูเว่ สวมเบอร์ 10 ของ "เดล ปิเอโร่"

คาร์ลอส เตเวซ หัวหอกอาร์เจนไตน์ แถลงเปิดตัวย้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีมยูเวนตุส ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเว็บไซต์ของแชมป์ลีกเปิดเผยภาพของเตเวซ ชูเสื้อเบอร์ 10 ที่อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ตำนานนักเตะเคยสวม

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของยูเวนตุส ประกาศเปิดตัว คาร์ลอส เตเวซ นักเตะทีมชาติอาร์เจนติน่าวัย 29 ปี ที่เซ็นสัญญาร่วมทีมยูเวนตุส เป็นเวลา 3 ปี แต่ไม่มีการเปิดเผยค่าตัว แต่เชื่อว่า น่าจะมีมูลค่า 12 ล้านยูโร

ยูเวนตุส ตกเป็นข่าวตามล่ากองหน้าหลายคนรวมถึงเฟร์นันโด ยอเรนเต้ หัวหอกร่างโย่งชาวสเปนจากแอธเลติก บิลเบา ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มว่า อเลสซานโดร มาตรี น่าจะได้ย้ายไปร่วมเอซี มิลาน ลดนักเตะตำแหน่งกองหน้าที่ทับกันในทีม

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

แซมบ้าเชือดจอมโหดลิ่วชิงศึกคอนเฟฯ

การแข่งขันฟุตบอลฟีฟ่า คอนเฟเดเรชันส์ คัพ 2013 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. รอบรองชนะเลิศ "แซมบ้า"บราซิล ทีมเจ้าภาพ ที่ผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มเอ พบกับ "จอมโหด"อุรุกวัย รองแชมป์กลุ่มบี

  เกมนี้เจ้าภาพส่ง เฟร็ด, เนย์มาร์, ออสการ์, ฮัลค์ นำเกมรุกเช่นเคย ขณะที่ "จอมโหด" มีตัวชูโรงอย่าง เอดินสัน คาวานี่, หลุยส์ ซัวเรซ, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน เป็นหัวใจสำคัญ

  ครึ่งแรกนาที 15 เจ้าภาพเกือบเสียท่า หลังจากที่ ดาวิด ลุยซ์ ไปทำฟาวล์ ดีเอโก้ ลูกาโน่ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษพร้อมแจกใบเหลืองให้กองหลังรายนี้ด้วย แต่ฟอร์ลันยิงไปติดเซฟของ ชูลิโอ เซซาร์ อย่างน่าเสียดาย

  นาที 41 กองเชียร์บราซิลได้เฮกันลั่น เปาลินโญ่ เปิดจากกลางสนามข้ามหัวกองหลังอุรุกวัยเข้าเขตโทษ เนย์มาร์ จับบอลลงก่อนยิงมุมแคบไปติดเซฟ เฟร์นานโด มุสเลร่า แต่บอลยังมาเข้าทาง เฟร็ด ซ้ำสู่ก้นตาข่าย จบครึ่งแรกบราซิลนำ 1-0

  ครึ่งหลังนาที 48 อุรุกวัยก็มาทวงคืนได้ จากความผิดพลาดของแนวรับเจ้าภาพที่เคลียร์บอลไม่ขาด และเป็น เอดินสัน คาวานี่ ที่แย่งบอลมาได้ ก่อนจะสับไกเสียบเสาเข้าไป ตีเสมอเป็น 1-1

  นาที 86 "แซมบ้า" ก็มาได้ประตูชัย จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เนย์มาร์ เปิดโค้งไปเสาสองไปเข้าทาง เปาลินโญ่ กระโดดโขกจมตาข่ายอย่างสวยงาม และเป็นประตูชัยให้บราซิลเอาชนะไป 2-1

  บราซิลผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะคู่ระหว่างสเปนกับอิตาลี ส่วนอุรุกวัยจะรอชิงอันดับ 3 กับผู้แพ้ของเกมนี้ โดยทั้ง 2 นัดจะเตะกันในวันที่ 30 มิ.ย.

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

‘เอมมี่’แจงเรื่องจูบปาก‘กอล์ฟ-อนุวัฒน์’

หลังจากออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสนิทกับ ‘กอล์ฟ-อนุวัฒน์’ นักแสดงหนุ่มช่อง 7 มากถึงขั้นเคย "จูบปาก" มาแล้ว ทำให้ ‘แซมมี่ คาวเวลล์’ สาวสนิทของหนุ่ม ‘กอล์ฟ’ สวนกลับว่าให้ดาราสาวรุ่นพี่ ‘เอมมี่’มรกต กิตติสาระ เช็กด้วยว่าใครมาก่อนใคร พอได้เจอสาว ‘เอมมี่’ ในงานประกาศรางวัล “สยามดารา สตาร์ อวอร์ด 2013” ที่ ห้องคริสตัลบอลรูม คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เจ้าตัวกล่าวว่า

 “โอเค ขอโทษค่ะ ข้อมูลผิดเองค่ะ(หัวเราะ) จริงๆ แล้วที่พูดไปมันเป็นการพูดเล่นมากกว่าค่ะ ไม่ได้มีอะไร ส่วนเรื่องจูบปากก็ไม่ได้มีอะไร แต่ว่าในละครมันจำเป็นจริงๆ แล้วในครอบครัวเราก็มีไม่กี่คน มีแซมมี่, ไอซ์-อภิษฎา, กอล์ฟ-อนุวัฒน์ และเอมมี่ แล้วก็อยู่กันอย่างอบอุ่น คนอาจจะคิดว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า มี่อาจจะเล่นแรงพูดแรงแต่ไม่มีอะไร” 

 ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่คนทั่วไปคิดว่า ‘แซมมี่’ กับ ‘เอมมี่’ ต้องเกาเหลากันแน่ “โอ๊ย...ไม่หรอกค่ะ ไม่กล้าเกาเหลากับน้อง ถามว่ามีการพูดคุยกันนอกรอบกับแซมมี่ไหม คุยไลน์กันทุกวันค่ะ จริงๆ สนิทกัน เจอข่าวแบบนี้ก็ขำค่ะ ขำที่ว่าเวลามีคนมาถามโน่นนี่ ทุกคนถ้าเห็นมี่กับกอล์ฟก็จะรู้ว่าไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ”

 แต่เหมือนว่า ‘แซมมี่’ จะโกรธ ‘เอมมี่’ หรือเปล่า “เหรอคะ น้องอาจจะอินกับละครเรื่องไฟหวนหรือเปล่าคะ มี่ก็อินกับคุณสน อินกันไป อินกันมาค่ะ(หัวเราะ)” 

 ต่อข้อถามว่า ‘กอล์ฟ’ ได้มาช่วยประสานกันหรือเปล่า เอมมี่กล่าวว่า “ไม่ค่ะ เราไม่เคยต้องเคลียร์อะไรกันอยู่แล้ว กอล์ฟก็รู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นอย่างไร ส่วนที่แซมมี่บอกว่าเหมือนเขาไม่ค่อยได้ไปกินข้าวด้วยกันกับเพื่อนในกลุ่ม ตรงนี้เข้าใจเพราะเขางานเยอะ ไม่ค่อยมีคิวว่าง อย่างตอนไปรายการที่นี่หมอชิตก็ชวนน้องไปเหมือนกัน แต่เขาไม่ว่างค่ะ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

โบวี่ตกใจบี้เคพีเอ็นโพสต์ภาพระหว่างคุยสไกป์

 มาร่วมงานประกาศรางวัล “สยามดารา สตาร์ อวอร์ด 2013” ที่ ห้องคริสตัลบอลรูม คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ‘โบวี่’อัฐมา ชีวนิชพันธ์ นักแสดงสาวเซ็กซี่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องแฟชั่นเซ็กซี่ โดยกล่าวว่า 

 “โบมีถ่ายแฟชั่นอยู่เรื่อยๆ นะคะ แล้วแฟชั่นส่วนใหญ่มันก็เซ็กซี่อยู่แล้ว อาจจะมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่คอนเซ็ปต์ของแต่ละหนังสือ แต่ถ้าถ่ายแฟชั่นเหมือนเป็นอัลบั้มส่วนตัวก็ยังไม่มีค่ะ” 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงหลังดูเหมือน ‘โบวี่’ จะแขวนเต้าไปเลย นักแสดงสาวกล่าวว่า “ถ้าถ่ายชุดว่ายน้ำก็ยังไม่มีถ่าย แต่ถ้าถ่ายแฟชั่นทั่วไปก็มีเรื่อยๆ โบก็ไม่ได้ตั้งใจจะวางมืออะไร มันขึ้นอยู่กับจังหวะและคอนเซ็ปต์มากกว่า อย่างชุดว่ายน้ำก็ยังไม่ได้ถ่าย เพราะรู้สึกว่ายังไม่พร้อมในอะไรหลายๆ อย่างด้วย อย่างชุดว่ายน้ำถ้าจะถ่ายมันต้องเป๊ะ ต้องเฟิร์ม ต้องฟิต เพราะถ่ายออกมาแล้วต้องให้ดูสวยค่ะ” 

 ต่อข้อถามว้า ‘บี้ เคพีเอ็น’ คนพิเศษ ไม่ได้ห้ามใช่ไหม โบวี่กล่าวว่า “มีนิดนึง เขาบอกว่าถ้าจะถ่ายก็ถ่ายได้ แต่ก็ดูให้ดีๆแล้วกัน ซึ่งพอเขาพูดมาแบบนี้โบก็ควรจะเกรงใจเขานิดหนึ่ง แต่ว่าอย่างไรทำงานอยู่ในวงการเหมือนกัน บี้เขาเข้าใจอยู่แล้ว แต่ว่าเขาอาจจะไม่อยากให้เยอะเกินไป” 

 ผู้สื่อข่าวถามเรื่องความรัก ตอนนี้บี้กลับมาจากเกาหลีแล้ว ความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้าง นักแสดงสาวกล่าวว่า “ตอนนี้ก็แฮปปี้ กลับมาคุยกัน อย่างล่าสุดเห็นเขาโพสต์รูปลงอินสตาแกรม โบก็แปลกใจเหมือนกัน(หัวเราะ) ปกติถ้าบี้จะโพสต์รูปก็จะมาบอกก่อน แต่เดี๋ยวนี้เหมือนจะเซอร์ไพรส์ ไม่ได้บอกก่อน” 

 ต่อข้อถามว่า เห็นรูปที่บี้แคปเจอร์ภาพที่คุยสไกป์กันลงอินสตาแกรมใช่ไหม โบวี่กล่าวว่า “เห็นค่ะ ก็ตกใจนิดหนึ่ง แต่ว่าก็น่ารักดี(หัวเราะ) ตอนนี้ก็ยอมรับว่ากลับมาคุยกัน ความสัมพันธ์ค่อนข้างที่จะดี แฮปปี้ค่ะ ถามว่าหวานขึ้นกว่าเดิมไหม จริงๆ ค่อนข้างที่จะดีขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ ส่วนที่จะเรียกว่าแฟนหรือเปล่า อยากจะขอเวลานิดหนึ่งค่ะ เพราะยังไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร เขาจะอยู่นานมากแค่ไหน คือช่วงนี้ไปๆ มาๆ ก็โอเคค่ะ”

 ผู้สื่อข่าวถามว่าเหมือนโบวี่กลัวเรื่องความห่างไกล “ใช่ค่ะ โบกลัว จริงๆ มันไม่ใช่แค่ห่าง มันเป็นเรื่องของสังคมด้วย ความเปลี่ยนแปลงมันสูง แล้วเขาอายุยังน้อย เราก็ต้องคิดดีๆ ถามว่าที่คิดแบบนี้เพราะยังไม่เชื่อมั่นในตัวบี้หรือเปล่า ถ้าถามว่าเชื่อมั่นไหม โบมองตามหลักธรรมชาติความเป็นจริงมากกว่าค่ะ ส่วนของตัวบี้เอง เขาก็รู้ว่าโบคิดยังไงอยู่ โบก็เห็นความพยายามที่เขาเหมือนทำให้โบมั่นใจมากขึ้น

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

จนท.กำจัดรังต่อหัวเสือขนาดใหญ่-หวั่นชาวบ้านถูกต่อย

27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นางธุเรียน บุญครอง อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 114/1 ม.20 บ้านพุทรา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้มีต่อหัวเสือมาสร้างรังขนาดใหญ่อยู่ที่กิ่งลำไย บริเวณหลังบ้านของตนเอง จึงอยากให้มาทำลายรังต่อออกจากบ้าน เนื่องจากกลัวต่อหัวเสือจะต่อยคนในบ้าน

เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยถังแก็ส และชุดพ้นไฟ พบรังต่อหัวเสือขนาดใหญ่เกาะอยู่ในกิ่งต้นลำใยหลังบ้านของนางธุเรียนฯ มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 40 เซนติเมตร โดยมีตัวต่อบินเข้าออกรังอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงนำไฟไปพ้นไปที่รังเพื่อให้ตัวต่อตาย ก่อนที่จะนำเลื่อยมือมาเลื่อยตัดกิ่งลำไยนั้นลงมา ก่อนที่จะนำไปทำลายต่อไป

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

‘ยายลอน’ให้ข้อมูลสอบอธิกรณ์ ‘เณรคำ’ ขณะ‘หลวงปู่พุทธะอิสระ’ต่อสายนักธุรกิจหญิงแฉซื้อหลุยส์ฯ-เจ็ต

 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่กลางทุ่งนาบ้านหนองถ่ม ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนางลอน มนัส อายุ 68 ปี เจ้าของที่ดินสร้างวัดป่าขันติธรรม และอดีตเคยเป็นโยมอุปัฏฐากของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ปรากฏว่าได้มีคณะกรรมการสอบอธิกรณ์พระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก นำโดย พระครูสิริวินัยวัฒน์  เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ และพระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบหาข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสมณเพศของพระวิรพล ฉัตติโก ซึ่งกำลังเป็นข่าวเผยแพร่ทางสื่อมวลชนทุกแขนงอยู่ในขณะนี้ โดยได้ไปสอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากนางลอน  เพื่อจะได้นำข้อมูลไปนำเสนอให้กับประธานคณะกรรมการสอบสวนต่อไป

 พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์จากเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ให้ตรวจสอบพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ เนื่องจากสื่อมวลชนได้เสนอข่าว ระบุว่า มีผู้นำภาพ และคลิปวิดีโอพระภิกษุ จำนวน 3 รูป พำนักอาศัยอยู่ใน จ.ศรีสะเกษ นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ใช้หูฟังโทรศัพท์มือถือไอโฟน สวมแว่นตาดำ และมีกระเป๋าแบรนด์ดัง ยี่ห้อ หลุยส์วิตตอง และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ดังนั้น คณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ จึงได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ฉบับที่  1 / 2556  เรื่อง ให้พระวิรพล ฉัตติโก ประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ไปชี้แจงข้อเท็จจริง  กรณีอธิกรณ์และข่าว

 พระครูวัชรสิทธิคุณ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลไม่ดีต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ จึงมีคำสั่งให้พระวิรพล ฉัตติโก  ประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ดังนี้  1. ให้พระวิรพล แจ้งให้จังหวัดทราบวันที่จะเดินทางกลับมาให้การสอบสวนชัดเจนแน่นอน ให้แจ้งสังกัดของตนเองว่า  สังกัดวัดใด ให้เจ้าคณะจังหวัดทราบแน่ชัด ให้พระวิรพล กลับมาให้การสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยตนเองให้เร็วที่สุด โดยไม่เกินวันที่ 30 มิ.ย. นี้ และให้พระวิรพล สั่งให้ศิษย์ฆราวาสงดการโต้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องพระธรรมวินัยสงฆ์ ซึ่งมิใช่วิสัยของฆราวาส จะเป็นเหตุทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนในหลักธรรมวินัย รวมทั้งให้พระวิรพลสั่งให้ศิษย์นำข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไปมอบถวายให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต เพื่อจะประมวลข้อมูลในการสอบหาข้อเท็จจริง ให้เกิดความกระจ่างต่อพุทธศาสนิกชนให้ทราบต่อไป ซึ่งได้นำหนังสือไปให้คณะสงฆ์ที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรมได้รับทราบแล้ว  และหากว่า  พระวิรพลไม่มาพบคณะกรรมการสอบอธิกรณ์ ภายในวันที่ 30 มิ.ย. นี้  ก็จะได้รายงานให้ประธานคณะกรรมการสอบสวนได้ทราบ เพื่อจะได้พิจารณาด้านพระธรรมวินัยอีกครั้งต่อไป

 ส่วนบรรยากาศที่วัดป่าสันติธรรม อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ มีลูกศิษย์หลวงพ่อเณรคำทยอยเข้าร่วมงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝน พระแก้วมรกตจำลอง แต่ไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่านมา และมีผู้มีจิตศรัทธาแสดงความจำนงตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารญาติโยมเพียง 3 ร้านเท่านั้น จากที่เคยมีหลายสิบร้าน

 ส่วนการจัดงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตองค์จำลอง เริ่มตั้งแต่เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา โดยพิธีการสำคัญคือ การเชิญพุทธศาสนิกชนเข้ากราบนมัสการหลวงปู่เณรคำภายในห้องรับรอง แต่ปีนี้กำหนดการต้องเปลี่ยนไป เนื่องจากหลวงปู่เณรคำ ยังไม่กลับมาร่วมพิธี ขณะที่ลูกศิษย์ที่มั่นใจว่า หลวงปู่เณรคำ จะเข้าร่วมพิธีอย่างแน่นอน และเชื่อว่าข่าวที่เกิดขึ้นมาจากความขัดแย้งระหว่างลูกศิษย์

  เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุขุม วงประสิทธ ผู้แทนที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ในฐานะศิษย์เอกของหลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม พร้อมลูกศิษย์ประมาณ 10 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเชิญร่วมงานพิธีห่มผ้าฤดูฝน ต้อนรับพระเถรานุเถระจากประเทศศรีลังกา สวิตเซอร์แลนด์ และประเทศฝรั่งเศส ตามที่สำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม จัดพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลอง(ใหญ่ที่สุดโลก)ระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย. นี้ โดยในวันที่ 30 มิ.ย.พระเถรานุเถระนานาชาติ จะเข้าร่วมระกอบพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลอง โดยพระครูภาวนาวรธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณราม ประเทศฝรั่งเศส เป็นประธานร่วมฝ่ายสงฆ์ และอาราธนาพระเถรานุเถระ จากประเทศศรีลังกา สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ร่วมเจริญพระพุทธมนต์และเชิญพุทธศาสนิกชนมาร่วมกันผ้าฤดูฝนขึ้นห่มถวายพระแก้วมรกตจำลอง เพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

 นายสุขุม กล่าวว่า ทางประธานฝ่ายสงฆ์ วัดป่าขันติธรรม ได้เดินทางเป็นแขกของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยได้อย่างสมเกียรติ เนื่องด้วยรมว.มหาดไทยของฝรั่งเศสให้การต้อนรับดูแลอย่างสมกียรติ ดังนั้นเมื่อพระนานานชาติเดินทางมาประเทศไทยด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างยังไม่มีผู้ใหญ่ของประเทศไทยให้การต้อนรับในการมาร่วมงานดังกล่าว  ดังนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติพระสงห์นานาชาติซึ่งรัฐบาลแต่ละประเทศกำลังจับตามองประเทศไทยอยู่ว่าจะมีผู้บริหารระดับสูงของชาติแสดงถึงความตั้งใจในการให้การต้อนรับคณะสงฆ์นานาชาติซึ่งเป็นที่เคารพของประชาชนแต่ละประเทศ ฉะนั้นไม่ควรละโอกาสสำคัญ ทางวัดป่าขันติธรรมจึงมีความจำเป็นที่จะขอกราบเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นแขกสำคัญในมหาพิธีดังกล่าวในวันที่ 30 มิ.ย. เวลา 09.59 น.ที่วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ

  ขณะที่หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย ได้ต่อโทรศัพท์และเปิดเสียงสนทนากับหญิงสาวนักธุรกิจรายหนึ่งที่บอกว่าเป็นคนซื้อกระเป๋าหลุยส์และพาพระชื่อดังไปเที่ยวฝรั่งเศส ทั้งนี้นักธุรกิจท่านนี้รับว่าเคยบริจาคทรัพย์จำนวนมากให้กับเณรคำ มีการนิมนต์ไปที่บ้านและไปเที่ยวต่างประเทศ และมีการจ่ายเช็คเงินสดค่าเครื่องบินลำเล็กมูลค่า 17 ล้านบาท นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าการซื้อเครื่องบินลำใหญ่มีการเจรจาดูโบรชัวร์ โดยบอกว่าเณรคำเอามาให้ดูมีมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท

 โดยนักธุรกิจหญิงรายนี้บอกว่า เณรคำ อ้างว่าจะใช้เป็นพาหนะแต่ถ้าไม่ได้เดินทางไปไหนจะได้ให้คนอื่นเช่า นอกจากนี้ครอบครัวยังเคยเดินทางไปเที่ยวฝรั่งเศสร่วมคณะกับเณรคำ โดยลูกสาวเป็นคนซื้อกระเป๋าหลุยส์วิตตองถวายให้เอง เนื่องจากเณรคำอยากได้จริงๆ และนักธุรกิจท่านนี้บอกว่าเคยอยากจะยกมรดกให้ผ่านพินัยกรรมอีกด้วย  

 หลวงปู่พุทธะอิสระได้พูดคุยกับนักธุรกิจรายนี้ผ่านทางโทรศัพท์โดยบอกว่า ในเมื่อเขาเรียกเราว่าแม่และเมื่อแม่รู้ว่าลูกกำลังหลอกลวงก็ต้องทำให้ถูกต้อง

 หลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุว่าเณรคำลวงโลกที่สำคัญลูกศิษย์ของเณรคำยังให้ร้ายคนที่เรียกว่าแม่อีกด้วย โดยบอกว่านักธุรกิจหญิงคนนี้เป็นคนเก็บเงินทั้งหมด และที่บอกว่าเป็นคนจัดคิวสาว ๆ ให้นั้นความจริงแล้วเป็นเพียงการจัดคิวนิมนต์เท่านั้น

 นอกจากนี้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ยังพูดถึงดอกเตอร์ท่านหนึ่งที่อยากให้ออกมาขอโทษพระรัตนตรัยที่ได้สร้างโจรมาเป็นอรหันต์ ทรัพย์สินที่ได้มาแทนที่จะเอาช่วยเหลือบริจาคต่อกลับเอาไปใช้ส่วนตัว อย่าไปช่วยเหลือขอให้ย้อนกลับไปดูว่าเมื่อก่อนเณรคำมีอะไร ที่นายังต้องเช่าเขาทำเดี๋ยวนี้กลายเป็นมีเครื่องบิน บ้านหรู วันนี้ไม่ต้องตรวจสอบแล้วเพราะไม่มีอะไรจะให้ตรวจสอบที่เขาไม่สร้างวัดเพราะไม่อยากให้มีการตรวจสอบ บวชจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ใครเป็นพระอุปัชฌาไม่มีใครรู้เลย

ที่มา ข่าวสดออนไลน์http://www.khaosod.co.th 

คนร้ายลวงสาวแอมเวย์ฆ่าหมกป่า เหลือแต่โครงกระดูก

เมื่อ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ท.เจนณรงค์ นครรัมย์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากนายสมนึก ปางเดิม ชาวบ้านตำบลทุ่งโพธิ์ ว่า พบโครงกระดูกมนุษย์บริเวณไร่ยูคาลิปตัส หมู่.2 ต.ทุ่งโพธิ์ หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมกบินทร์บุรี เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นป่ายูคาลิปตัสห่างจากถนนเข้าหมู่บ้านซันโย ประมาณ 500 เมตร พบหัวกะโหลกและกระดูกของมนุษย์กระจัดกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ เนื่องจากถูกสุนัขลากไปกัดกินคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 เดือน ใกล้กันกับที่พบโครงกระดูกพบหลักฐานหลายอย่าง เช่น กระเป๋าผ้าแบบสะพายสีน้ำเงิน กางเกงยีนต์สีน้ำเงิน เสื้อชั้นในแบบหญิงสีดำ เสื้อสีขาว และเสื้อคุมสีดำลายจุดขาว สร้อยคอพร้อมพระ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโมบาย  รองเท้าแตะสีแดง  ในสภาพจมดินเนื่องจากถูกฝนตกใส่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าพบเอกสารหลายอย่าง เช่น บัตรประจำตัวพนักงานของ AMWAY (แอมเวย์) บัตรประจำนักศึกษา ของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน) อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี บัตร ATM ของธนาคารต่างๆ ระบุชื่อนางสาวบุษราภรณ์ คำนิล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/91 หมู่.9 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี  ในที่เกิดเหตุยังพบรอยล้อรถจักรยายนต์เข้าออกคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย

ด้านชาวบ้านผู้พบศพ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยภรรยาและหลานได้พากันไปหาเห็ดเพื่อนำไปทำอาหาร ขณะในสวนยูคาลิปตัส ขณะที่หาเห็ดอยู่นั้นก็เห็นโครงกระดูกเคลื่อนกระจายอยู่ทั่ว จึงพากันมาดูว่าใช่โครงกระดูกของคนหรือไม่ รู้ว่าใช่จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

เบื้องต้นจากการสอบถามนางเป้ พี่สาวของผู้ตายทราบว่า น้องสาวไม่ได้พักอาศัยที่บ้านหลังจากที่ไปเป็นพนักงานฝ่ายขายของตัวแทน AMWAY (แอมเวย์) อยู่ที่กบินทร์บุรี  และได้ไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ว่าชื่อ “จอย”อยู่ที่อำเภอนาดี และไม่รู้ว่าน้องสาวหายตัวไปเลยไม่ได้แจ้งความไว้ จนกระทั่งมารู้ว่าน้องถูกฆ่านำศพมาทิ้ง

ทางด้าน พ.ต.ท.เรืองสิทธิ์ ศรีสุวรรณ รอง.ผกก.(สส) สภ.นาดี หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ตายน่าจะถูกลวงมาฆ่าจากที่อื่นก่อนนำศพมาทิ้งในสวนยูคาลิปตัส ส่วนคนร้ายไม่ต่ำกว่าสองคน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหะนะเพราะมีล่องรอยอยู่ ส่วนอาวุธที่คนร้ายใช้สังหารยังไม่ทราบว่าเป็นชนิดอะไร ต้องส่งศพให้สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว หรือถูกลวงมาข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง  สำหรับผู้ตายดูจากรูปถ่ายเป็นคนที่มีหน้าตาดี ส่วนคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือแฟนหนุ่ม ที่เกิดจากความหึงหวง ก่อนที่จะหลอกมาฆ่าและนำศพมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

อุ้ม ลักขณา สลัดผ้านุ่งบิกินี่ ทวงบัลลังก์เซ็กซี

อุ้ม ลักขณา ตั้งแต่ประกาศตัวว่าตัวเองเป็นโสดต้องบอกว่าเธอยิ่งสวยวันสวยคืนมากจริง ๆ ล่าสุดใน instagram ส่วนตัวของอุ้มได้โพสต์ภาพบิกินี่สุดเซ็กซี่โชว์อก เอว เรียวขาสุดเซ็กซี่ ที่หนุ่ม ๆ ดูแล้วหลายคนคงอยากขอบัตรคิวอาสาดูแลหัวใจให้สาวอุ้มกันแน่นเลยทีเดียว  

เรียกว่าเมื่อใดที่อุ้ม ลักขณา ลุกขึ้นมาทวงบัลลังก์เซ็กซี่ แฟนคลับทั้งหลายไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า

ที่มา http://news.sanook.com

พศ.สั่งเร่งสอบพระดังนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว-สะสมรถหรู-ใช้หลุยส์วิตตอง

 วันที่ 17 มิ.ย. นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนร้องเรียนจำนวนมาก ว่า พบพระสงฆ์บางรูปสะสมพาหนะการเดินทาง มีรถหรู มีเครื่องใช้ไม้สอยราคาแพง ฟุ่มเฟือยมาก ผิดอาจาระของความเป็นสงฆ์ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีคลิปพระสงฆ์ประพฤติผิดให้ทางโลกติเตียนเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบโดยสมาชิกรายหนึ่งในชื่อ เครื่องบินเจ็ทประจำองค์ 2 โดยภายในคลิปเป็นคณะสงฆ์จำนวน 3 รูปนั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว หูเสียบหูฟังโทรศัพท์มือถือไอโฟน สวมแว่นตาดำและกระเป๋าแบรนด์ดังหลุยส์วิตตอง เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอดที่สนามบินอุบลราชธานี ซึ่งทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นหลวงพ่อชื่อดังรูปหนึ่งในจ.ศรีสะเกษ

 นายนพรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่ามีภาพพระสงฆ์ 3 รูปจากวัดกล่าวเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตจริง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่จับตาพระสงฆ์กลุ่มดังกล่าวว่ายังปฎิบัติตนผิดโลกวัชชะหรือให้ทางโลกติเตียนอีกหรือไม่ หากกระทำผิดจริงจะประสานไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองพิจารณาลงโทษทันที

 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกระแสของประชาชนที่พบเห็นพระสงฆ์อีกหลายรูปประพฤติตนไม่เหมาะสม อาทิ วัดดังหลายแห่งชอบสะสมรถหรู รถสปอร์ต มีของใช้แพงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ว่าลูกศิษย์ลูกหาจัดซื้อถวายหรือไม่ก็ตาม หากพระสงฆ์รูปนั้นตั้งอยู่ในความสมถะแล้ว คงไม่มีภาพรถสปอร์ตจอดอยู่ในกุฎิหลายสิบคัน ซึ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

 นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า ยังมีพระสงฆ์บางรูปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทางที่ผิดๆ จากที่เน้นคำสอนกลายเป็นการทรงเจ้าเข้าผีเป็นพุทธพาณิชย์มากเกินไป เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีลูกศิษย์เป็นดารานักร้องชื่อดังเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อวัดหรือพระสงฆ์ดังกล่าวได้ แต่ได้ตักเตือนไปด้วยวาจาแล้ว 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์http://www.khaosod.co.th

ฮ.กองทัพบกสลิงขาดหมุนกลางอากาศ ก่อนตกบ่อน้ำ จ.นครนายก เจ็บ 5

 เมื่อช่วงเช้า วันที่ 17 มิ.ย. เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก โดยร.ต.อ.รัฐพล เวรุตกมล ร้อยเวร สภ.บ้านนา และ พ.ต.ท.วรรณะ คงคารัตน์ พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.บ้านนา ให้ข้อมูลว่า ที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำ ใกล้ถนนบ้านนา-แก่งคอย เข้ามาจากถนนเล็กน้อย เป็นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก สังกัดกองบินปีกหมุนที่ 1 ศูนย์การทหารบกลพบุรี ยี่ห้อเบล รุ่น UH-1 ฮิวอี้ สภาพด้านหน้าเครื่องเกยบนขอบบ่อ ส่วนหางจมอยู่ในน้ำ

 ภายในห้องผู้โดยสาร พบนักบินและผู้โดยสารทั้งหมด 8 คน ได้แก่ 1. พ.ต.ทศพล นุสสะ นักบินที่ 1 ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกที่ชายโครงขวา 2. ร.อ.ธำรงเกียรติ์ ชาติธรนง นักบินที่ 2 มีอาการปวดหัวไหล่ข้างขวา 3. ร.อ.คเชนทร์ สายติ่ง 4. จ.ส.อ.สรวิชญ์ อินโต ได้รับบาดเจ็บริมฝีปากถลอก และมีอาการปวดหลัง 5. ส.อ.ธวัชชัย ศิริวงศ์ ได้รับบาดเจ็บปวดหัวไหล่ข้างขวา ส่วนอีก 3 นาย ได้แก่ ร.อ.ปฏิเวธ ชลละออง, จ.ส.อ.ณัฐกรณ์ ทัศมามี และส.ต.ชานุกร บุญเสริม ทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บ

 จากการสอบสวนทราบว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเดินทางมาจากศูนย์กลางทหารบก จ.ลพบุรี กำลังจะไปปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการซ่อมบำรุงที่จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ลวดสลิงบังคับหางเสือด้านหลังขาด ทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัว นักบินพยายามประคองตัวเครื่องจนเห็นบ่อน้ำดังกล่าว จึงได้ตัดสินใจนำเครื่องลงฉุกเฉิน

 สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเบื้องต้นนำส่งโรงพยาบาลบ้านนา ก่อนจะนำตัวไปตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลนายร้อยพระจุลจอมเกล้าต่อไป

 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และสั่งการให้ชี้แจงต่อประชาชนให้รับทราบ เพื่อป้องกันความสับสน

ที่มา ข่าวเดลินิวส์ออนไลน์http://www.khaosod.co.th

สหภาพแรงงานตุรกีเรียกร้องผละงานประท้วง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ว่า บรรดาสหภาพแรงงานในตุรกี เรียกร้องให้ผละงานประท้วงเป็นเวลา 1 วัน เพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อการประท้วงต้านรัฐบาล โดยสมาพันธ์สหภาพแรงงานสาธารณะ หรือเคอีเอสเค และสมาพันธ์สหภาพการค้าก้าวหน้า หรือดีไอเอสเค เรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงของตำรวจ  การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีขึ้น หลังจากที่เกิดการปะทะกันเรื้อรังระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและตำรวจในนครอิสตันบูล และกรุงอังการา เมืองหลวงตุรกี

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีเรเซฟ เทย์ยิป เออร์โดกัน ปกป้องการกวาดล้างผู้ประท้วงของตำรวจอย่างไม่พอใจ โดยเขากล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนนับหมื่นคนในนครอิสตันบูล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขาในการสั่งขับไล่ผู้ประท้วงในสวนสาธารณะเกซี ในอิสตันบูลเมื่อคืนก่อน การประท้วงไม่ได้เป็นอะไรที่มากกว่าความพยายามของคนหยิบมือเดียว ที่ต้องการครอบงำคนส่วนใหญ่ เราจะไม่อนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้น และเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ผู้นำตุรกี ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมคล้ายเผด็จการ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์รายงานข่าวของสื่อต่างชาติ และให้คำมั่นที่จะเปิดโปงพวกที่ก่อการร้ายตามท้องถนน

ทั้งนี้ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเหตุวุ่นวายตามถนนรอบจัตุรัสทัคซิม ใจกลางอิสตันบูล โดยเฉพาะในพื้นที่นีซันตาซี และรอบสะพานกาลาตา ซึ่งข้ามไปยังเขตสุลต่านาห์เม็ต สมาชิกรัฐสภาจากพรรคพีเพิลส์ รีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ถูกตำรวจทำร้ายด้วย

ที่มา ข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ http://www.dailynews.co.th

รวบเด็ก 10 ขวบ ขับรถบนทางหลวง เหตุผู้ใหญ่เมาเละ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจของเมืองเคนเนอร์ รัฐหลุยส์เซียน่า ของสหรัฐฯ จับกุมเด็กชายวัย 10 ขวบ พร้อมคุณย่าของเขา ฐานที่ให้หลานขับรถ SUV บนถนนหลวง(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)

ทั้งนี้ เหตุที่เด็กชายต้องขับรถเป็นเพราะผู้ใหญ่ที่มาด้วยกันเกิดอาการเมา จึงปล่อยให้หลานขับรถแทน โดยในรถยนต์ประกอบไปด้วยเด็กชายวัย 10 ขวบ และผู้โดยสารอีก 3 คน คือย่าของเด็กวัย 54 ปี หญิงวัย 48 ปีและหญิงวัย 15 ปี อีกคน

สำหรับย่าและหญิงวัย 48 ปี ถูกจับกุมข้อหาปล่อยให้เด็กที่ยังไม่มีใบขับขี่ขับรถได้ ขณะที่เด็กชาย 10 ขวบและหญิงสาววัย 15 ปี ถูกปล่อยตัวแล้ว

ที่มา  http://news.mthai.com

สับเละ! MV เพลง"เป๊ะ" ของ "เอิร์ก" มีฉากจูบปาก-กินกล้วย

ในโลกออนไลน์กำลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกับมิวสิควิดิโอเพลง"เป๊ะ" ของ "เอิร์ก เลเดอเรอร์" นักร้องลูกทุ่ง ที่มีการใช้ 4 หญิงสาวสวยเซ็กซี่ ได้แก่ เก๋ กรรณิกา ขันแก้ว Miss world next top model 2012, หมวย พิลาวรรณ อารีรอบ นางแบบแม็กซิม ปี 2010, มิ้วกี้ ไปรยา ผดุงสุข Miss Sexy Leo Girl 2012 และ ชาญ่า นางแบบสุดเซ็กซี่ มาร่วมแสดงใน MV ด้วย ซึ่งใน MV ดังกล่าวมีภาพล่อแหลม  โดยหญิงสาวทั้ง 4 คนเต้นส่ายสะโพกคลอเคลียนักร้องหนุ่ม ฉากหญิงสาวกินกล้วยที่ปอกแล้วด้วยท่าทางส่อไปในทางสองแง่สองง่าม  แถม 4 สาวยังยอมรับอีกว่าระหว่างการถ่ายทำมีการถอดเสื้อผ้าออกจนหมด เหลือเพียงแต่ชุดชั้นใน ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักถึงภาพลักษณ์เพลงลูกทุ่ง และความเหมาะสมต่อสังคมไทย

ที่มา http://www.tnews.co.th

ฉาวอีก! คลิปทหารหญิงอิสราเอลเปลือยท่อนล่าง เต้นท่ายั่วยวน

ฉาวอีก! คลิปทหารหญิงอิสราเอลเปลือยท่อนล่าง เต้นท่ายั่วยวน คาดไม่รอดถูกสอบอีกแน่ ไม่ฟันธงเป็นกลุ่มเดียวที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้

เรื่องฉาวยังไม่ทันจางหายสำหรับกองทัพอิสราเอล จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีภาพเปลือยของทหารหญิงพร้อมอาวุธคู่กายถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ร้อนถึงผู้บัญชาการต้องออกมาชี้แจง และสั่งลงโทษกับทหารหญิงเหล่านั้น

ล่าสุดเรื่องฉาวก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีคลิปเปลือยท่อนล่างของทหารหญิงถูกเผยแพร่ขึ้นอีกครั้งในเว็บไซต์ต่างๆ โดยในคลิปได้เผยให้เห็นถึงลีล่าส่ายสะโพกโยกเอวไร้ซึ่งอาภรณ์ประกอบเพลงในท่าทางยั่วยวน โดยมีอาวุธเป็นอุปกรณ์ประกอบ และทหารหญิงรายหนึ่งพูดเป็นภาษาฮิบรูว่า เตรียมที่จะอัพโหลดคลิปลงในเว็บไซต์เฟซบุ้กด้วย

ทั้งนี้ในรายงานไม่ได้ระบุว่าทหารหญิงกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวที่ถูกเผยแพร่ภาพลับไปก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่อย่างไรแล้วพวกเธอคงหนีไม่พ้นจากการถูกตรวจสอบจากทางกองทัพแน่นอน

กองทัพอิสราเอลคาดโทษ ทหารสาว โพสต์ภาพหวิวลงเฟสบุ๊ก

ทางกองทัพอิสราเอลมีคำสั่งลงโทษเหล่าทหารสาว ที่โพสต์ภาพวาบหวิวขณะอยู่ในกองทัพลงเฟสบุ๊กส่วนตัว

ที่มา http://news.mthai.com

วิจารณ์แซด! คลิปทำโทษทหาร สั่งแก้ผ้าทำท่าอนาจาร

วิจารณ์แซด! คลิปทำโทษสั่งทหารแก้ผ้า ทำท่าอนาจาร ขณะที่ชาวเน็ตตั้งคำถามถึง ผบ.ทบ. มีความเห็นอย่างไร

เกิดเป็นกระแสทำให้พูดถึงกันอีกครั้งสำหรับวงการทหารบ้านเรา เมื่อในโลกออนไลน์ขณะนี้ได้มีการส่งต่อคลิปทำโทษทหาร ด้วยการให้ทหารทุกคนแก้ผ้าเปลือยล่อนจ้อน ก่อนจะสั่งให้นอนราบ จากนั้นให้อีกคนนอนทับไปบนร่างอีกคนซ้อนๆ กัน จากนั้นได้สั่งให้คนที่อยู่บนสุดทำท่าทางคล้ายการมีเพศสัมพันธ์

ซึ่งเมื่อคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่ทำโทษด้วยวิธีการแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องสนุกภายในก็ตาม พร้อมทั้งได้ตั้งคำถามไปยัง ผบ.ทบ.ด้วยว่า มีความเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์เช่นนี้

ที่มา http://news.mthai.com

แห่ชื่นชม ภาพหนุ่มเกษตรฯ วางอิฐเป็นทางเดิน กลางสายฝน

สุภาพบุรุษไม่ได้มีแต่ในนิยายเท่านั้น โดยที่หน้าแฟนเพจศูนย์ข่าวชุมชน ม.เกษตรศาสตร์ ได้มีการโพสต์ภาพน่าประทับใจ ของกลุ่มนิสิตชั้นปีที่ 1 เดินข้ามถนนท่ามกลางฝนตก โดยมีนิสิตชายคนหนึ่งได้หยิบอิฐบล็อคมาวาง เพื่อให้นิสิตหญิงเดินข้ามน้ำที่ท่วมขังไปได้

ทั้งนี้ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นหน้าบริเวณอาคารศูนย์เรียมรวม 1 (ศร.1) ซึ่งมีคนกดแชร์และแสดงความเห็นชื่นชมนิสิตชายคนนี้เป็นจำนวนมาก

สำหรับการรับน้องในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้นมีธรรมเนียมปฏิบัติของคณะแรกตั้งคือ คณะเกษตร, คณะวนศาสตร์และคณะประมง ว่านิสิตต้องเดินกลับบ้านกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆและในกลุ่มต้องมีผู้ชายอยู่ด้วย เพื่อความปลอดภัยและให้เพื่อนได้รู้จักกันมากขึ้น

ขอบคุณภาพจาก แฟนเพจศูนย์ข่าวชุมชน ม.เกษตรศาสตร์

ที่มา http://news.mthai.com

โจ๋มือยิงหลาน เต๋า สมชาย ดับ โร่มอบตัว บชน.แล้ว

เยาวชนวัย 17 ปี ที่ยิงหลาน "เต๋า สมชาย" โร่มอบตัว ผบช.น. แล้ว หลังถูกกดดันหนัก รับเป็นคู่อริผู้ตายจริง อ้าง ยิงเพราะเกรงจะถูกทำร้าย ตำรวจยังสืบสวนต่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่

เยาวชนชาย อายุ 17 ปี หลานชาย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นักเรียน ปวช. ปี 3 ช่างอิเล็กโทรนิกส์ สถาบันวิทยาลัยการอาชีพแหง่หนึ่ง ย่านมีนบุรี เดินทางเข้ามอบตัวที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลัง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีนบุรี ออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่น

จากกรณีก่อเหตุใช้อาวุธปืนปากกายิง นายศตวรรษ จำนงค์ภักดิ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลอุตสาหกรรมกรุงเทพ เสียชีวิตภายในตลาดวงศกร เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุตนและเพื่อนรุ่นน้อง ขี่รถจักรยานยนต์มาในที่เกิดเหตุพร้อมกันและพบกับนักศึกษาต่างสถาบัน และเกรงว่าจะถูกทำร้าย จากนั้นยังพบผู้ตายกำลังลงจากรถสองแถว บริเวณตลาดวงศกร ทำทีชักมีดดาบที่พกติดตัววิ่งเข้ามาหา ตนจึงใช้ปืนปากกาที่พกมายิงต่อสู้ ส่งผลให้ นายศตวรรษ เสียชีวิต ทั้งนี้ ตำรวจยังเร่งสืบสวนว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติม

'เต๋า สมชาย'เศร้า! รุดดูศพหลานถูกอริยิงดับคาตลาดวงศกร

ที่มา http://news.sanook.com/ 

ไม่จบ! คู่อริแค้นไม่เลิก ตามไล่ฆ่าเพื่อนหลานเต๋าดับอีกราย

ช่างกลคู่อริที่ยิงหลานเต๋าสมชาย ตามไล่ฆ่าเพื่อนหลานเต๋าดับ 1 คน ญาติร้องสื่อมวลชน ถูกเฝ้าดูหน้างานศพหวั่นจะเป็นอันตราย

กลุ่มคู่อริที่เคยยิง นายศตวรรษ จำนงภักดิ์ หลานชายของ เต๋า สมชาย เข็มกลัด จำนวนกว่า 10 คน เข้าทำร้ายเพื่อนของหลานเต๋า 4 คน ขณะยืนรอรถประจำทาง บริเวณซอยรามคำแหง 139 โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่กลุ่มเพื่อนของนายศตวรรษ กำลังจะไปร่วมงานศพ ทำให้มีผู้เสียชีวิค คือนายกสิกร (ขอสงวนนามสกุล) นักศึกษาเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ชั้นปีที่ 2 ถูกมีดรุมแทง อย่างไรก็ตาม กล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวสามารถบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด 

อย่างไรก็ตาม ก่อนเสียชีวิต นายกสิกร ได้ไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล รวม 3 แห่ง ครั้งแรกไปที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แต่แพทย์ได้อ้างเรื่องการประกันชีวิตที่ไม่รับสิทธิกรมธรรม์ประกันที่ผู้ตายทำอยู่ จึงได้ส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา ซึ่งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาได้อ้างว่า ไม่มีแพทย์รักษาอาการ จึงส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ที่อยู่ไกลมาก จนทำให้นายกสิกรมีอาการเสียเลือดมาก กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ขณะที่ญาติของ นายกสิกร เผยว่า ได้นำศพของนายกสิกร มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางเพ็ญใต้ ศาลา 2 ซอยตลาดน้ำ ขวัญเรียม ถนนรามคำแหง กทม. และจะทำการฌาปนกิจศพในวันนี้ (13 มิ.ย.) โดยก่อนหน้านี้ ตลอดพิธีบำเพ็ญกุศล กลุ่มคู่อริที่ป็นนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ได้เข้ามาสังเกตการณ์บริเวณที่จัดงานศพอยู่ตลอด ทำให้เพื่อนร่วมสถาบันของผู้ตายไม่ใครกล้ามาร่วมงาน อีกทั้งยังมีท่าทีที่จะทำร้ายญาติของผู้ตาย ซึ่งก่อนหน้านี้คู่อริได้เคยขู่อาฆาตไว้แล้วว่า จะฆ่าฝ่ายเดียวกับหลานเต๋า-สมชายให้หมด จึงได้เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ที่มา http://news.sanook.com

"ซลาตัน"เบิ้ลสวีเดนเชือดแฟโร-"โคนม"พ่ายเละคาบ้านคัดบอลโลก

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเก่งเหมาคนเดียวสองประตูให้ขุนพล "ไวกิ้ง" สวีเดน เปิดบ้านเอาชนะหมู่เกาะแฟโร 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 มิ.ย.

เจ้าถิ่นได้ประตูแรกนาทีที่ 35 จากจังหวะที่มิคาเอล ลุสติก โยนบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้าไปให้ ซลาตัน ยิงด้วยซ้ายระยะ 6 หลาตุงตาข่าย ก่อนมาเหลือผู้เล่น 10 คนในนาที 80 เมื่ออันเดรียส กรันควิสต์ โดนใบแดงหลังไปเสียบสกัดผู้เล่นทีมเยือนแบบน่าเกลียด 

แต่นาทีต่อมา อัตลี่ เกรเกอร์เซ่น ทำฟาวล์ซลาตัน และกองหน้ากัปตันทีมไวกิ้งรายนี้ก็ลุกขึ้นมาสังหารให้สวีเดนขึ้นนำ 2-0 และชนะไปด้วยสกอร์นี้ พร้อมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของกลุ่มซี โดยมี 11 แต้มเท่าออสเตรีย ทีมอันดับสอง ตามหลังเยอรมนี จ่าฝูง 4 แต้มจากการลงเล่น 6 นัดเท่ากัน 

ส่วนในกลุ่มบี อาร์เมเนีย โชว์ฟอร์มหรูบุกไปถล่มทีม "โคนม" เดนมาร์ก เละคาถิ่น 4-0 และเป็นชัยชนะเหนือคู่แข่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังของประเทศเทียบเท่าเมื่อครั้งเปิดรังต้อนนอร์เวย์ในศึกยูโร2012รอบคัดเลือกรวมทั้งทำให้โอกาสผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของเดนมาร์กริบหรี่เต็มทน

ด้านมอร์เตนโอลเซ่นโค้ชทีมเดนมาร์กกล่าวหลังเกมว่านี่เป็นค่ำคืนที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตฟุตบอลของตน และยากที่จะอธิบายว่าเหตุใดทีมไม่สามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้ แต่ถือเป็นความผิดของตน 100 เปอร์เซนต์ 

สรุปผลฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนยุโรปเมื่อคืนวันที่ 11 มิ.ย.

กลุ่มบี เดนมาร์ก แพ้ อาร์เมเนีย 0-4

กลุ่มซี สวีเดน ชนะ หมู่เกาะแฟโร 2-0

กลุ่มไอ เบลารุส เสมอ ฟินแลนด์ 1-1

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

อังกฤษร่วงไร้แต้ม-อิตาลีควงนอร์เวย์ลิ่วยู-21ชิงแชมป์ยุโรป

การแข่งขันฟุตบอลยชิงแชมป์ยุโรป ยู-21 ปี รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย กลุ่มเอ เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 มิ.ย. "สิงโตน้อย" อังกฤษ ที่แพ้มาสองนัดรวดและกระเด็นตกรอบไปแล้วลงสนามพบอิสราเอล ทีมเจ้าภาพ ผลปรากฏว่า ลูกทีมของสจ๊วร์ต เพียร์ซ ยังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่พ่ายไปอีก 0-1 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูชัยจากโอฟีร์ คริอาฟ นาทีที่ 80

จากผลนัดนี้ทำให้อังกฤษ รั้งบ๊วยของกลุ่มโดยไม่มีแต้มติดมือเลย ขณะที่อิสราเอล มีเพิ่มเป็น 4 คะแนนแต่ต้องตกรอบเช่นกัน 

ส่วนผลอีกคู่ อิตาลี เสมอ นอร์เวย์ 1-1 โดยทีม"ไวกิ้ง"นำก่อนจากจุดโทษของสเตฟาน สตรานเบิร์ก นาที 89 จากนั้นขุนพลมะกะโรนีมายิงแบ่งแต้มช่วงทดเจ็บนาที 94 จาก อันเดรีย แบร์โตลัชชี่ ทำให้อิตาลีคว้าแชมป์กลุ่มเอ และนอร์เวย์ รั้งอันดับสอง กอดคอกันผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

พบศพหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาดี ถูกจับมัดมืด-เท้า ยัดกระสอบป่านโยนทิ้งน้ำโขง

เมื่อ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ท.ณรงค์ ศรีมาตร ร้อยเวร สภ.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดกระสอบลอยอืดมาติดอยู่ริมตลิ่ง ติดกับท่าทรายศักดิ์ระวี บ้านหอคำ ต.หอคำ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบรุดไปชันสูตร พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐเชษฐ์  โคตรนาม รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.ตะวัน  ฉวีวรรณ สว.สส. นายแพทย์วรรณธนชัย รอดชมภู แพทย์เวร ร.พ.บึงกาฬ หน่วยกู้ภัยไต่ฮงโจวซือวีอาร์บึงกาฬ  

ที่ริมน้ำโขงท่าทรายดังกล่าว พบกระสอบป่านลอยมาติดตลิ่ง เปิดดูด้านในเป็นศพหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี ผิวขาวรูปร่างอวบ ผมยาวโกรกสีน้ำตาลเข้ม ส่วนสูงประมาณ 155 เซนติเมตร ใส่เสื้อยึดคอกลมสีเทา ด้านหน้าอกเขียนเป็นอักษรภาษาอังกฤษ 3 บรรทัด มีคำว่า GIRL HAPPY กางขาสั้นลายดอกกุหลาบ ม่วง-เขียว-ขาว 

สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลัง และมัดเท้าด้วยเชือกไนล่อนสีเขียว ปากถูกติดด้วยเทปกาวสีขาว ที่ท้ายทอยมีรอยคล้ายถูกตีหรือฟัน เป็นแผลเหวอะหวะ 4 แห่ง ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน จากการสอบถามคนในระแหวกใกล้เคียงก็ไม่มีคนแจ้งหาย และไม่มีใครรู้จักว่าผู้ตายเป็นใคร หน่วยกู้ภัยจึงได้นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่สุสานมูลนิธิส่งเสริมธรรมจังหวัดอุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพต่อไป

ด้าน พล.ตท.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่าศพหญิงสาวคนนี้น่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น โดยกลุ่มฆาตกรคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 คน จับผู้ตายมัดมือมัดเท้าและใช้เทปกาวปิดปากไม่ให้ร้องโวยวาย ก่อนทุบหัวซ้ำโยนทิ้งน้ำโขงเพื่ออำพราง  แล้วศพจึงลอยมาเกยตื่นร้องขอความเป็นธรรมในท้องที่ สภ.หอคำ ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบเนื่องจากยังไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใคร แต่คงเกิดจากเรื่องโกรธเคืองกันอย่างมาก อาจเป็นการฆ่าปิดปากหรือหักหลังธุรกิจมืดก็เป็นได้ เบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจฝายสืบสวนลงพื้นที่ออกหาข่าวและเบาะแสของหญิงสาวรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

สาวเกาหลีพลัดตกตึกย่านสีลมดับอนาถ-สามีนักธุรกิจเผยทะเลาะกันบ่อย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. ร.ต.ท.ชัยวุฒิ สุขใส พงส.สน.ทุีงมหาเมฆ รับแจ้งเหตุมีผูกตกตึกเสียชีวิต เหตุเกิดที่อาคารพักอาศัยแห่งหนึ่ง ภายในสีลมซอย 7 แขวงสีลม เขตบางรัก กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุวรรณ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แพทย์นิติเวช รพ.จุฬา เจ้าหน้าทีืกองพิสูจน์หลักฐาน แงะมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 22 ชั้น จากการตรวจสอบบริเวณระเบียงห้องเลขที่ 103 ชั้น 7 ของอาคารดังกล่าว พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวชาวต่างชาติ ทราบชื่อตือมาคือ นางสาวคิม ฮี ยอง อายุ 38 ปี สัญชาติเกาหลี สภาพนอนหงาย ขาพาดออกนอกระเบียง สวมเสื้อสีครีมแขนกุด คลุมทับด้วยเสื้อยือสีชมพูแขนยาว กางเกงรัดรูปสีเทา มีรองเท้าแตะสีฟ้าตกอยู่ข้างตัว 1 ข้าง ตามร่างกายมีบาดแผลแตกที่ศีรษะด้านซ้าย ขาหักทั้ง 2 ข้าง และมีร่องรอยถลอกตามร่างกาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12-24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดที่พบไปตรวจสอบ

จากการสอบถาม นายยุก พิล ฮยุน อายุ 43 ปี สัญชาติเกาหลี ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย กล่าวว่า ตนพักอยู่ที่ห้องเลขที่ 177 ชั้น 15 ของอาคารดังกล่าว โดยพักอยู่กับผู้ตาย และห้องพักก็เปิดเป็นบริษัทส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง ซึ่งตนทำธุระกิจส่งออกไปประเทศเกาหลี โรงงานตั้งอยู่ที่ จ.นนทบุรี ก่อนหน้านี้ตนพักอยู่ที่ชั้น 14 ได้ประมาณ 2 ปี และย้ายขึ้นไปพักที่ชั้น 15 ได้ประมาณ 10 เดือน ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมผู้ตายและเพื่อน ได้นั่งดื่นกินกันอยู่ที่ห้องตน หลังจากนั้นเพื่อนก็กลับออกไป ระหว่างนั้นตนก็มีปากเสียงกับผู้ตายเล็กน้อย ระหว่างนั้น ผู้ตายออกไปที่ระเบียงห้อง แล้วบอกตนว่าโทรศัพท์ตกลงไปที่กันสาดให้ตนช่วยเก็บให้หน่อย ตนจึงบอกว่าไม่ต้องเก็บหรอกเพราะมันอันตราย หลังจากนั้นตนจึงแต่งตัวออกไปจากห้อง

นายยุก กล่าวต่อไปว่า จากนั้นเวลาประมาณ 23.30 น. ตนก็กลับเข้ามาที่ห้อง ไม่พบผู้ตายจึงได้ออกตามหาไปทั่วก็ไม่พบ กระทั่งช่วงสายวันนี้ (12 มิ.ย.) มีตำรวจมาบอกตนว่าแฟนตนเสียชีวิตแล้วจึงรีบออกมาดูก็พบศพดังกล่าว ปกติตนอยู่กับผู้ตายก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพียงแต่ทะเลาะกันตามนิสัยคนอยู่ด้วยกันเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าผู้ตายตกลงเองหรือกระโดดลงมากันแน่

ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะกระโดดลงมาเสียชีวิต เนื่องจากผู้ตายไม่ได้ออกไปไหน และบริเวณระเบียงห้องยังพบรองเท้าแตะของผู้ตายตกอยู่ 1 ข้าง ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวนสามีผู้ตาย ว่าเหตุจูงใจเกิดจากอะไร และระหว่างเกิดเหตุมีปากเสียงกันมากน้อยแค่ใหน ซึ่งตนจะได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดสอบปากคำ ก่อนดำเนินการต่อไป

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

"หมวย แม็กซิม" โร่แจ้งความโดนมอมเข้าโรงแรม ตื่นมาสภาพเปลือย - ผวาโดนอนาจารถ่ายคลิป!

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กองปราบปราม น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ หรือ “หมวย-พิลาวรรณ” อายุ 30 ปี อดีตสาวแม็กซิม 2010 พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายก็อต ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล และพวก ในความผิดฐานกระทำอนาจาร และกักขังหน่วงเหนี่ยว  เหตุเกิดที่ห้องพักในโรงแรมหรูย่านหลังสวน กทม. เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ต่อเนื่องถึงวันที่  8 มิ.ย.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวน น.ส.พิลาวรรณ ให้การว่า ก่อนหน้านี้มีเพื่อนนางแบบชื่อ จอย ได้โทรศัพท์มาหาบอกว่ามีงานให้ทำ คือเพียงแค่ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของนักธุรกิจหนุ่มรายหนึ่ง ที่ร้านอาหารกึ่งผับซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมที่เกิดเหตุ ตนเพียงแค่ทำหน้าที่คอยถือเค้กวันเกิด และนั่งร่วมงานกับเจ้าของงานเท่านั้น ก็จะได้ค่าจ้าง 5 พันบาท ก็เลยเห็นว่าเป็นงานสบายๆ จึงตกลงรับงาน 

น.ส.พิลาวรรณ ให้การต่อว่า วันเกิดเหตุคือช่วงค่ำวันที่ 7 มิ.ย. เมื่อไปถึงก็พบกับเจ้าของงานและคนอื่นๆ อีกประมาณ 5-6 คน  ก็รู้สึกแปลกใจที่ไม่เห็นว่ามีเค็กวันเกิด แต่ก็นั่งคุยกันไปตามมารยาท โดยดื่มสุราไปเพียงแก้วเดียว จนชักเริ่มไม่ค่อยสนุกเพราะไม่มีเพื่อนมาด้วย จึงขอตัวออกไปสูบบุหรี่นอกร้าน เมื่อกลับเข้ามาในร้านอีกครั้ง ก็เริ่มรู้สึกเบลอๆ มึนๆ จำอะไรไม่ได้ ขณะนั้นเชื่อว่าอาจถูกวางยาในเครื่องดื่ม และหมดสติไป

น.ส.พิลาวรรณ  ให้การอีกว่า หลังจากนั้นมารู้สึกตัวอีกที ก็พบว่า นอนอยู่ในโรงแรมกับเจ้าของงานคนดังกล่าว  ซึ่งทราบเพียงชื่อเล่นว่าชื่อ “ก็อต” ส่วนสภาพของตนก็คือถูกถอดเสื้อผ้าออก มีเพียงเสื้อกั๊กสีเขียวเป็นของใครก็ไม่รู้สวมอยู่  นุ่งกางเกงชั้นในเพียงตัวเดียว หลังตั้งสติได้แล้วก็รีบโทรศัพท์ติดต่อหาเพื่อนชื่อแนน ส่วนนายก็อตก็พยายามจะออกจากห้องไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แต่ตนได้พยายามรั้งไว้ไม่ให้ไป เพื่อจะได้รอให้เพื่อนมาช่วย

น.ส.พิลาวรรณ กล่าวอีกว่า เมื่อเพื่อนที่ชื่อแนนมาถึง ก็มีการต่อว่ากันอย่างรุนแรง โดยนายก๊อตอ้างว่า ตนยินยอมพร้อมใจที่จะเข้าโรงแรมด้วย ไม่ได้บังคับ ทั้งที่มันไม่เป็นความจริง เพราะตนหมดสติไป  แต่ตอนนั้นยังไม่มีหลักฐานอะไร ก็เลยปล่อยให้นายก๊อตกลับไปก่อน หลังจากนั้น ก็ไปสอบถามรายละเอียดจากพนักงานของโรงแรม และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่าขณะที่ตนถูกพาเข้าโรงแรมมานั้นมีคนคอยพยุงตัวมาด้วย ก็เลยคิดว่าถูกวางยาแน่นอน

น.ส.พิลาวรรณ ให้การด้วยว่า ตอนแรกที่ไม่กล้าข้าแจ้งความ เพราะเกรงว่าเสื่อมเสียชื่อเสียงและมีผลต่อการทำงาน และไม่มั่นใจว่าถูกกระทำล่วงเกินอะไรไปบ้าง เพราะช่วงที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้สติ  กระทั่งเมื่อปรึกษากับทนายความแล้ว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะไม่แน่ใจว่านายก๊อต อาจมีกล้องถ่ายวีดีโอหรือภาพ ในขณะที่ตนกำลังเปลือยกายอยู่ อาจถูกนำไปเผยแพร่ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้

เบื้องต้น พ.ต.อ.ประสพโชค ได้รับเรื่องไว้ โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป. สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน  เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

สำหรับ “หมวย-พิลาวรรณ” นั้น เป็นอดีตผู้เข้าประกวดมิสแม็กซิม 2010  ที่ผ่านมาเคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวกับนักร้องหนุ่ม “ฮาร์เวิร์ด หวัง” กรณีที่อ้างว่า มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักร้องหนุ่มคนดังกล่าว จนตั้งท้อง แล้วถูกบังคับให้ทำแท้ง และมีข่าวว่าเคยถูก ฮาร์ดเวิร์ด หวัง ทำร้ายร่างกาย  จนต้องเข้าแจ้งความที่สน.ลุมพินี ก่อนที่เรื่องจะเงียบหายไป

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ญาติยืนยันเป็นศพ "เอกยุทธ" จริง - ตร.ชี้รัดคอฆ่า หวังปล้นเงิน 5 ล้าน

วันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่า เจ้าหน้าที่จะเริ่มขุดหาศพนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซต์เดอร์ ที่ป่าบ้านเขาจิงโจ้ ต.พนมวัง อ.เมือง จ.พัทลุง ตั้งแต่เวลา 09.00น.วันนี้

"พื้นที่เกิดฝนตกหนัก หากเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการจะเป็นการทำลายพยานหลักฐาน จะเริ่มปฏิบัติการขุดค้นหาร่างนายเอกยุทธ ตามคำให้การของผู้ต้องหา ในเวลา 09.00น." พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ นายชวลิต วุ่นชุม ชาวพัทลุง ที่นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ "บอล" คนขับรถของนายเอกยุทธ ซัดทอดว่าเป็นหนึ่งในสองผู้ต้องหาร่วมกันลงมือฆ่านายเอกยุทธ ยืนยันว่า ไม่ได้ลงมือฆ่านายเอกยุทธ แต่ทำหน้าที่นำศพนายเอกยุทธไปฝัง 

ก่อนหน้านี้ เวลา 23.30  น. วันที่  11 มิ.ย. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรพัทลุง  พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา  รอง ผบช.น. และ  พล.ต.ท.พิสิฎฐ์   ผบช.ภ.9  ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าในคดีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร  ว่าในคืนนี้ตำรวจต้องยุติการค้นหาพยานหลักฐานและการค้นหาศพ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ตามคำกล่าวอ้างของนายสันติภาพ  เพ็งด้วง   คนขับรถที่ให้การกับตำรวจว่าได้นำศพไปฟังไว้ข้างเขาจิงโจ้  ในท้องที่  อ.เมืองพัทลุง  เนื่องจากว่าเกิดฝนตกหนัก  อาจจะส่งผลให้พยานหลักฐานที่สำคัญถูกทำลายได้   ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะได้ระดม จนท.ตำรวจ  และกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง  เข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมตามเส้นทางที่นายสันติภาพฯได้บอกกับตำรวจในขั้นต้น

พล.ต.ต.ปริญญา   กล่าวอีกว่า   การให้ปากคำของนายสันติภาพ   บางอย่างวกไปเวียนมายังสรุปเนื้อหาที่แน่นอนไม่ได้  ซึ่ง  ตร.จะได้สอบปากคำนายสันติภาพอีกครั้ง ส่วนรถของนายเอกยุทธ  ตร.ไม่พบคราบเลือดแต่อย่างใด   ส่วนการควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมมือกับนายสันติภาพนั้น   ตร.จะเชิญตัวมาสอบปากคำทุกคนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว   รวมทั้ง จ.ส.อ.อิทธิพล   เพ็งด้วง  บิดาของนายสันติภาพ ซึ่งเป็นทหารสังกัด  ช.401   ค่ายอภัยบริรักษ์   ต.ชุมพล   อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง   รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องกับคดีทุกคน

ด้านพล.ต.ท.พิสิฎฐ์   พิสุทธิศักดิ์   ผบช.ภ.9  กล่าวว่า  สำหรับนายชวลิต  วุ่นชุม อายุ  25   ปี   อยู่บ้านเลขที่ 213   ม.1   ต.แพรกหา  อ.ควนขนุน   จ.พัทลุง   ซึ่งเข้าร่วมก่อคดีกับนายสันติภาพฯโดยทำหน้าที่เป็นคนขุดหลุมฝังศพนายเอกยุทธฯซึ่งถูกกำลัง  ตร.ภาค  9   และ  ตร.สภ.กันตัง  จ.ตรัง รวบตัวได้นั้น  ขณะนี้นายชวลิตได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ธูปกระจ่างผบช.น. พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบช.ภ. 9 ได้คุมตัวนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 25 ปี คนขับรถผู้ต้องหาฆ่านายเอกยุทธ ไปค้นหาศพตามจุดต่างๆที่เคยให้การไว้ ปรากฏว่า นายสันติภาพกลับให้การวกวน อ้างว่าจำตำแหน่งไม่ได้ ไม่เหมือนช่วงที่ยังถูกคุมตัวอยู่ที่กทม. ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขับรถกลับไปกลับมานานกว่า 1 ชม. กระทั่งตัดสินใจพาตัวกลับไปที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  เพื่อสอบข้อมูลอีกครั้ง

 ล่าสุด มีรายงานว่า ผกก.ตชด. 434 ที่นำกำลังส่วนหนึ่งมาร่วมค้นหาศพ แจ้งกลับมาที่กองบัญชาการว่า ได้พบหลุมที่เชื่อว่าเป็นจุดฝังศพนายเอกยุทธแล้ว พบว่าเป็นหลุมขนาดใหญ่มีร่องรอยการฝังกลบอยู่ แต่ไม่แนบเนียนมากนัก ซึ่งมีตำแหน่งอยู่บริเวณเขาจิงโจ้ หมู่ 10 บ้านเขาจิงโจ้ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง โดยหลุมศพดังกล่าวเป็นจุดที่ นายชวลิต วุ่นชุม รับสารภาพว่าร่วมฝังศพนายเอกยุทธเคยชี้ตำแหน่งบอกไว้ก่อนหน้านี้ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีทั้งหมด กำลังเร่งเดินทางไปตรวจสอบหลุมศพดังกล่าวอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อ้างว่า หลังจากฟังแถลงข่าวของ บช.น. ว่า นายสันติภาพ หรือ บอล คนขับรถของนายเอกยุทธ ให้การว่า นายเอกยุทธ หนีไปประเทศพม่า ก็เดินทางไปที่บช.น.ทันที เพื่อคุยกับผู้ต้องหา เพราะในส่วนตัวก็มีหลักฐานว่าที่แถลงกันนั้นไม่ใช่เรื่องจริง จึงได้สอบถามใหม่จนรับว่าลงมือฆ่า แต่ก็ยังมีการโกหกหลายประเด็น รวมทั้งวิธีการฆ่า จุดที่ฝังศพ จนกระทั่งตำรวจสามารถรวบเพื่อนที่ร่วมลงมือได้ แล้วเค้นสอบใหม่ จึงยอมบอกจุดที่ฝังศพ แต่เมื่อคืนที่ จ.พัทลุง ฝนตกหนัก จึงขุดศพไม่ได้ จึงเลื่อนมาเป็นช่วงสายวันนี้ ก็น่าจะมีความชัดเจนหากเจอศพ

นายสุวัตร ระบุว่า ในเรื่องการทำงานของตำรวจ ไม่มีความคลางแคลงใจแล้ว หลัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กับทีมพนักงานสอบสวน ร่วมฟังการสอบสวน และมีความกระจ่างจนปราศจากข้อสงสัย โดย นายสันติภาพ มีประวัติอาชญากรโชกโชน ต้องไล่บี้กว่าจะยอมรับ และการที่มาเป็นคนขับรถก็มีการวางแผนเป็นอย่างดี พบประวัติเคยเป็นลูกน้อง เสธ.คนดัง เอี่ยวคดีอุ้มฆ่า ก่อนมาแฝงตัวถึง 7 เดือน ไม่เชื่อว่าเป็นการลงมือเพื่อชิงทรัพย์ เพราะเอาตัวไปก่อนแล้วมาเอาเงินทีหลัง รวมทั้งยืนยันว่า ไม่ใช่ประเด็นเรื่องแฟน นายสันติภาพ โดยเชื่อว่า มีการวางแผนเอาชีวิตมาตั้งแต่ต้น เรื่องเงินเป็นของแถม หรือเบี่ยงเบนประเด็น 

 

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงและสั่งให้เร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน ซึ่ง บช.น. พยายามคลี่คลายอย่างเต็มที่ตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่ นายสุวัตร ทนายความของ นายเอกยุทธ ระบุว่า ลูกความของตนโดนอุ้มฆ่า โดยมีการวางแผนเป็นขบวนการใหญ่ และมีผู้บงการซึ่งเป็นบุคคลระดับใหญ่โตของบ้านเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น ตนเองไม่ได้กังวลใด ๆ เพราะเข้าใจที่ ทนายสุวัตรจะคิดและสันนิษฐานกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง เป็นสิทธิ์ของตัวเอง และพร้อมยืนยันว่า จะเร่งคลี่คลายคดีด้วยความยุติธรรม ปราศจากความสงสัยจากประชาชน 

 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ขุดหลุมศพที่นายชวลิต วุ่นชุม 1 ในทีมผู้ต้องหานำไปชี้จุดที่ริมบ่อปลาของนายน้อม เพชรสุวรรณ บริเวณตรงรอยต่อบ้านเขาจิงโจ้กับบ้านคลองกุด ม.8 ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง โดยขุดลงไปครึ่งเมตรก็พบศพนายเอกยุทธอยู่ในสภาพเปลือยกาย และเริ่มขึ้นอืด มีรอยฟกช้ำที่ใบหน้าและลำคอ โดยเจ้าหน้าที่เก็บดีเอ็นเอไปพิสูจน์เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง

 อย่างไรก็ตาม ญาติของนายเอกยุทธ ที่มาอยู่ในเหตุการณ์ยอมรับว่าเป็นศพของนายเอกยุทธ แต่ขอให้ส่งศพของนายเอกยุทธ ตรวจสอบทางนิติเวช อีกครั้งที่กทม. 

 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผบช.น. เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นญาติของนายเอกยุทธ ยืนยันว่าเป็นศพของนายเอกยุทธจริง เนื่องจากมีรูปพรรณสัณฐานและร่องรอยบริเวณใบหู ที่มีลักษณะเป็นรอยพับ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะส่งศพยังไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจพิสูจน์ลักษณะบุคคลที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตเชื่อว่าตรงกับคำให้การของคนร้ายก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าได้มีการรัดคอ เนื่องจากสภาพศพพบร่องรอยบริเวณลำคอมีลักษณะถูกรัดจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะต้องมีการสืบสวนขยายผล เนื่องจากจะต้องติดตามเงินซึ่งคาดว่ามีจำนวนมากกว่า 5 ล้านบาทของนายเอกยุทธกลับคืนมา ส่วนมูลเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ผู้ต้องหายังคงยืนยันว่ามาจากการประสงค์ต่อทรัพย์ โดยจะต้องสืบสวนว่ามีผู้บังการเบื้องหลังหรือไม่ต่อไป และจะมีการเชิญครอบครัวของนายเอกยุทธเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจอีกครั้ง

 วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีนายสันติภาพ เพ็งด้วง ผู้ต้องสงสัยในคดีการหายตัวไปของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร มีบิดาเป็นทหาร คือ จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง สังกัด ช.พัน 401 จังหวัดพัทลุงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องการข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการในทางคดี ทางหน่วยต้นสังกัดจึงอำนวยความสะดวกให้ทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางรองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ประสานมายังหน่วย ช.พัน 401 มาเพื่อให้ตรวจสอบหายานพาหนะรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสีดำว่า ได้เข้ามาภายในค่ายหรือไม่ ทางหน่วยได้ตรวจสอบและรายงานกลับว่า ไม่พบหรือปรากฏรถตู้ยี่ห้อโฟล์คคันดังกล่าวภายในหน่วย จากนั้นทางหน่วยจึงได้เรียก จ.ส.อ.อิทธิพล มาสอบถามความเป็นมาเป็นไปในขั้นต้น โดยจ.ส.อ.อิทธิพล ได้ให้ข้อมูลว่าได้พูดคุยกับบุตรชายล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. แต่เป็นเพียงการพูดคุยกันตามปกติไม่ได้พูดถึงเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อความมั่นใจหน่วยยังได้จัดกำลังพลเข้าตรวจสอบพื้นที่รอบค่ายฯ รวมถึงบ้านพักของ จ.ส.อ.อิทธิพลฯ เพื่อหาสิ่งผิดปกติแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ 

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า จนกระทั่งวานนี้ (11 มิ.ย.) เวลาประมาณ 20.00 น. จ.ส.อ.อิทธิพลขอเข้าพบผู้บังคับบัญชา คือ ผบ.ช.พัน.401 เพื่อขอบอกเล่าข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่า เมื่อ 14.00 น. ของวันที่ 7 มิ.ย. นายสันติภาพได้โทร.มาเล่าว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว และได้นำเงินที่ได้มาไปฝากให้แม่ที่อยู่ใน กทม.ไว้ เพื่อให้นำไปฝากต่อไว้กับจ.ส.อ.อิทธพลที่จังหวัดพัทลุง จากนั้นจ.ส.อ.อิทธิพล จึงได้ไปรับเงินมาแล้วนำไปแอบซ่อนไว้ที่บ้านของบิดา และบ้านญาติที่จังหวัดสงขลา ทั้งนี้จากข้อมูลที่ได้รับจาก จ.ส.อ.อิทธิพลเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ให้ไว้กับหน่วยต้นสังกัด จะเท็จจริงหรือน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดคงต้องให้ทางพนักงานสอบสวน เป็นผู้ดำเนินการขั้นต่อไป หลังจากนี้ทางกองพลพัฒนาที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยบังคับบัญชาของ ช.พัน.401 หน่วยต้นสังกัดของจ.ส.อ.อิทธิพลจะประสานกับตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เพื่อนำตัว จ.ส.อ.อิทธิพล ไปให้ข้อมูลในวันนี้ (12 มิ.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น.ต่อไป

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

เอมมี่ออกโรงแจงคลิปฉาว-โปรโมทรายการบันเทิง

เมื่อ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอมมี่ อมลวรรณ หรือที่รู้จักกันในนาม เอมมี่ แม็กซิม ออกมาชี้แจงกรณีคลิปนัวเนียผู้ชายในห้องเปลี่ยนเสื้อ ระบุแค่โปรโมทรายการใหม่ของตัวเองเท่านั้น

"รู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ แต่ทำไมเอมมี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเนอะ อันนี้ต้องติดตามใน IG เอมมี่ เดี๋ยวมีอะไรจะรีบบอกเลยว่าจริงๆ มันคืออะไร จะแอบบอกนิดนึงว่ามันเป็นการโปรโมทรายการของเอมมี่เอง เป็นรายการใหม่ ขอบอกรายละเอียดแค่นี้นะคะ เดี๋ยวไว้จะนัดพี่ๆ บอกอีกทีแน่นอนค่ะ ตอนนี้เอมมี่ทำหลายอย่างมาก เรื่องคลิปยังไม่ขอพูดอะไรมากค่ะ เรื่องสร้างกระแสไม่เลยค่ะ พูดเลยว่าตอนแรกไม่รู้เลยว่าเค้าปล่อยคลิปแล้ว เพิ่งรู้เมื่อเช้าเองค่ะ 

ยืนยันว่าไม่ได้โกหก ถามว่ากลัวคนมองว่าสร้างกระแสไหม? ไม่ค่ะ เพราะจริง ๆ เราทำไปเพราะเค้าจ้างเรา เงินไม่ใช่น้อยๆ ตอนนี้มีหลายรายการมากที่โทรมาติดต่อให้สร้างกระแสให้หน่อย จริง ๆ ตัวเอมมี่ไม่ได้สร้างกระแสให้ตัวเองแล้ว เพราะเราก็มีชื่อเสียงแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เค้าจ้างมา เราก็ทำ รายการที่ทำออกแนวตลกค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเอมมี่ยังขายเซ็กซี่ เพราะเอมมี่ขายหน้าตาไม่ได้ เลยต้องใช้ความเซ็กซี่นิดหน่อยค่ะ"

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

"บราซิล" ถล่ม "ฝรั่งเศส" 3-0 ตราไก่ทัวร์อเมริกาใต้ยิงใครไม่ได้

บราซิล ถล่มเอาชนะ ฝรั่งเศส 3-0 ในการแข่งขันอุ่นเครื่องกระชับมิตร วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยตราไก่ ยุติทริปอเมริกาใต้โดยยังไม่สามารถยิงประตูได้เลย

เกมที่เกรมิโอ อารีน่า แซมบ้า เป็นฝ่ายเล่นได้เหนือกว่า และได้ประตูจาก ออสการ์ นาทีที่ 30 เฮอร์นาเนซ นาทีที่ 85 และลูคัส โมร่า ยิงจุดโทษนาทีสุดท้าย เอาชนะ เลอ บลอส 3-0 

ทีมตราไก่เพิ่งแพ้ให้กับอุรุกวัย ในเกมก่อนหน้านี้ และยังยิงประตูไม่ได้ 2 เกมติดกันแล้ว ขณะที่บราซิล อุ่นเครื่องได้ที่ก่อนเริ่มเล่นคอนเฟเดอเรชั่น คัพ ในวันที่ 15 มิถุนายน ประเดิมสนามพบกับ ญี่ปุ่น

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

"สเปน" สอย "เยอรมัน" 1-0 ฉลุยเข้ารอบ ดัตช์รัว 5-1 ยูโร ยู-21

แข้งสเปนได้อัลวาโร่ โมราต้า เป็นฮีโร่เกมที่ 2 ติดต่อกันแล้ว เมื่อลงมาเป็นตัวสำรองทำประตูชัยให้กระทิงหนุ่มเอาชนะ เยอรมัน 1-0 และส่งอินทรีเหล็กตกรอบยูโร ยู-21

เกมยูโร ยู-21 กลุ่มบี วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา สเปน ได้ประตูชัยจากโมราต้า ในนาทีที่ 72 จองตั๋วผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้สำเร็จ และเป็นประตูส่งเยอรมัน ตกรอบไปเช่นเดียวกับ รัสเซีย ที่แพ้เนเธอร์แลนด์ 1-5 

ทัพอัศวินสีส้ม เอาชนะ ทีมหมีขาวที่เหลือ 10 คน 5-1 ได้ประตูจากจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม นาทีที่ 39 ลุค เดยอง นาทีที่ 61 โอลา จอห์น นาทีที่ 69 แดนนี่ ฮูเซ่น นาทีที่ 83 และเลรอย เฟอร์ นาทีที่ 90 ส่วนรัสเซีย ได้ประตูจากเดนิส เชอรีเชฟ นาทีที่ 65 โดยรัสเซีย มาเหลือ 10 คนเมื่อนิกิต้า ชิเชริน โดนใบแดงในนาทีที่ 50 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

"ซีดาน" เชื่อชุดขาว เล็ง "เบล" ต้องขุดงบทุ่มทำลายสถิติค่าตัวนักเตะอีก

ซีนาดีน ซีดาน ยอดตำนานมิดฟิลด์โลกลูกหนังยอมรับว่าเรอัล มาดริด ต้นสังกัดเก่าเป็นหนึ่งในทีมหากต้องการล่าตัวแกเร็ธ เบล ดาวเตะฟอร์มแรงจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส มาร่วมทีมต้องพร้อมทุ่มงบทำลายสถิติโลกอีกครั้ง
ดาวเตะเวลส์โชว์ฟอร์มสุดยอดในฤดูกาลที่ผ่านมา กวาดรางวัลจากหลายสถาบันในแดนผู้ดีไปครอง และตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทีมระดับโลกหลายทีมมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับเรอัล มาดริด ซึ่งทีมเจ้าของสถิติการซื้อนักเตะราคาแพงที่สุดในโลกด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์

ล่าสุด รายงานข่าวจากสื่อดังในอังกฤษหลายแห่งเชื่อว่า เรอัล มาดริด มีแนวโน้มอาจต้องทำลายสถิติเดิมเพื่อดึงเบล มาร่วมทีมแข่งกับบาร์เซโลน่า คู่ปรับร่วมลีกที่ได้ตัวเนย์มาร์ ดาวยิงบราซิล ขณะที่ซีดาน ซึ่งรับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของมาดริด ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ โดยซีดาน เชื่อว่า มี 4-5 สโมสรที่สามารถทุ่มเงินทำสถิติโลกอีกครั้ง

"หากมีทีมไหนต้องการให้สเปอร์ส สนใจ อย่างนั้นก็ต้องใช้เงินมหาศาล บางทีอาจพูดถึงการทำลายสถิติ" ซีดาน กล่าว

"ตอนนี้มี 4-5 สโมสร ที่จะไม่หลุดวงในการทุ่มเงินเป็นสถิติแบบนั้นได้"

ทั้งนี้ รายงานข่าวจากเดลิเมล์ เชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่ เบล จะถูกดึงมาแทนที่คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะดังคนเดิมของทีม ซึ่งปีกโปรตุเกส ตกเป็นข่าวอาจได้ย้ายมาร่วมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเก่า

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ปอท.ล่ามือโพสต์รูปป้ายสี "เท่ง" หมิ่นเบื้องสูง-เจ้าตัวเผยเครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับ

เมื่อ 10 มิ.ย. ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เท่ง เถิดเทิงž ตลกชื่อดัง หรือนายพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ อายุ 47 ปี พร้อมนายศราวุธ สำอาง ทนายความ เข้าพบพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) กรณีถูกนำภาพในรายการชิงร้อยชิงล้าน ซันชายน์เดย์ ไปโพสต์พร้อมกับข้อความไม่เหมาะสมในเชิงหมิ่นเบื้องสูงในโลกอินเตอร์เน็ต 

โดยนายพงษ์ศักดิ์ ระบุว่า ตนมาแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานในความบริสุทธิ์ใจ เพราะในฐานะคนไทย ที่เคารพรักสถาบันยิ่งชีวิต จึงขอให้คนที่นำรูปและข้อความไปโพสต์ในเชิงที่ทำให้เสียหาย ให้หยุดเสียเถิด ตนเป็นคนทำมาหากิน ขอให้ได้ทำงานต่อไป ทุกวันนี้ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แล้ว 

 ด้านพล.ต.ต.พิสิษฐ์กล่าวว่าแม้ว่าผู้เสียหายไม่ต้องการให้ดำเนินคดี เพียงแต่ต้องการแจ้งความเป็นหลักฐาน แต่ในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐ ก็ต้องสืบสวนหาผู้กระทำความผิดให้ได้ โดยจะต้องดูเนื้อหาก่อน หากเป็นความผิดก็ต้องว่าไปตามนั้น และหากเป็นภาพที่ผิดกฎหมายก็ต้องสั่งระงับการเผยแพร่ คดีนี้ต้องรีบดำเนินการ เพราะโดนแบบนี้เยอะ เอาสถาบันที่เคารพรักมากลั่นแกล้งกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูก ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

บุ๋ม ปนัดดา" สวมชุดแหวกอก ขโมยซีนก๊วนนางงาม

 "บุ๋ม" ปนัดดา วงศ์ผู้ดี อดีตนางสาวไทย ปี 2543 ผันตัวสู่อาชีพนักแสดงและพิธีกร สวมชุดราตรีถ่ายภาพร่วมกับบรรดานางสาวไทย สมัยต่างๆ แต่ชุดของ "บุ๋ม" นั้นกินขาด เพราะแหวกลึก เปิดอกกันแบบไม่แคร์สื่อเลยทีเดียว ขโมยซีนนางงามรุ่นน้องรุ่นพี่ รวมถึงรุ่นล่าสุดแบบหมดจด  

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

จับแท็กซี่โจร-ขยี้ผู้โดยสารสาวในหลายพื้นที่

 เมื่อ 10 มิ.ย. พ.ต.ท.ชูชาติ คงเมือง สว.สส.สน.ทองหล่อ และพ.ต.ท.จักร จุลกะรัตน์ สว.สส.สน. นำกำลังฝ่ายสืบสวนจับกุมนายทวีศักดิ์ ปรีชานนท์ อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 3 ต.เนินพระปรางค์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 

 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 12.00 น. นักศึกษาผู้หญิงเรียกรถแท็กซี่ของสหกรณ์แท็กซี่อิสระ จำกัด หมายเลขทะเบียน ทล 5511 กทม. สีชมพูคาดแดง จากเอกมัยไปส่งที่บ้านพักย่านสาธุประดิษฐ์ และรอรับเพื่อจะเดินทางเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย แต่ระหว่างทางคนขับล็อกประตูรถและขับออกนอกเส้นทางมุ่งหน้าไป อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพาเข้าไปในโรงแรมม่านรูด แต่ผู้เสียหายกระโดดลงจากรถหลบหนีออกมาได้ และขอความช่วยเหลือจากคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง 

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวมีนายทวีศักดิ์ ผู้ต้องหาเช่าไปขับ ก่อนไปจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าภายในซอยอิสรภาพ 27 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. สอบสวนนายทวีศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า ขับรถแท็กซี่มา 7 ปี และเคยก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง ในจำนวนนี้ข่มขืนผู้โดยสารมา 3 ครั้ง และชิงทรัพย์ 2 ครั้ง จะนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายเพื่อนำเงินมาใช้เที่ยวเตร่และเล่นการพนัน จากนั้นก็จะไปเช่ารถแท็กซี่ของบริษัทอื่นๆ ขับต่อไป เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายจดจำได้ จนกระทั่งถูกจับกุม

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

(ภาพชุด) ทัพเรือไทยฝึกร่วมทัพเรือสหรัฐ โจมตีสะเทินน้ำ สะเทินบก ชายหาดเมืองชล

10 มิ.ย. พลเรือโทพิจารณ์  ธีรเนตร รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกของกำลังโจมตีโฉบฉวย สะเทินน้ำสะเทินบก ณ หาดยาว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือตรี  ไพฑูรย์ ประสพสิน ผู้บัญชาการ กองเรือฟรีเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ ในฐานะ ผู้อำนวยการฝึกผสม พล.ร.ต.วิลเลี่ยม ซี แม็คควิลกิ้น (William C. McQuilkin) ผู้บัญชาการ กองกำลังทางเรือ  กองทัพเรือสหรัฐ พร้อมด้วยคณะนายทหาร ข้าราชการ ประชาชน นักเรียน ร่วมรับชมการสาธิต 

พลเรือตรี  ไพฑูรย์ ประสพสิน ผู้บัญชาการ กองเรือฟรีเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ ในฐานะ ผู้อำนวยการฝึกผสม กล่าวว่า สำหรับการฝึกโจมตีโฉบฉวยของกำลังพลรบยกพลขึ้นบก ก็เป็นการฝึกที่สำคัญซึ่งกำลังรบที่จะใช้เป็นทหารนาวิกโยธิน กำลังโจมตีโฉบฉวยสะเทินน้ำสะเทินบกจะต้องมาจากทะเลจะด้วยอากาศยาน ยานรบ หรือเรือรบ ก็จะเรียกรวมเป็นการยกพลขึ้นบก หรือปฏิบัติการโจมตีโฉบฉวยสะเทินน้ำสะเทินบกโดยกำลังรบจะต้องทำการโจมตีก่อกวนลิดรอนทำลาย กำลังของข้าศึก และทำให้กำลังรบฝ่ายบุกสามารถ รุกเข้าไปเข้าไปในพื้นที่ได้เพื่อจะได้พัฒนาองค์บุคคล องค์วัตถุ ให้มีความรู้ ความชำนาญ ในศาสตร์ของการยกพลขึ้นบกให้มากขึ้น ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 18 มีกองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการเป็นหน่วยรับผิดชอบการฝึก

ในส่วนของกำลังที่เข้าร่วมการฝึกนั้นฝ่ายไทยประกอบด้วย ในส่วนของกำลังที่เข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ ฝ่ายไทย ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสีชัง เรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงบางระจัน เรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงรัตนโกสินทร์  เรือหลวงท่าดินแดง เรือปฏิบัติการตามลำน้ำ  เฮลิคอปเตอร์ ปราบเรือดำน้ำแบบ ซีฮอว์ค เครื่องบิน ตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำแบบ P – 3  ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก  แบบ AAV  ชุดปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) กำลังรบยกพลขึ้นบก ชุดถอดทำลายอมภัณฑ์(EOD) และ ชุดแพทย์เคลื่อนที่การฝึกออกเป็น 3 ช่วง คือ การฝึกในท่าและภาคสนาม การฝึกในทะเล และการสรุปผลและวิจารณ์การฝึก ใช้พื้นที่การฝึกบริเวณ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน ทั้งนี้นอกจากการฝึกในด้านต่างๆ แล้ว กองอำนวยการฝึกยังได้จัดให้มีโครงการช่วยเหลือประชาชนในด้านการแพทย์และการก่อสร้างในพื้นที่การฝึก และเปิดให้บริการทางการแพทย์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง อันจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่การฝึก อันจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี และความมั่นใจในการปฏิบัติงานร่วมกันให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

"ปอสติก้า"ฮีโร่!"โปรตุเกส"เฉือน"รัสเซีย"1-0 "บาโล"แดง!"อิตาลี"เจ๊า"เช็ก

ศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มเอฟ "ฝอยทอง" โปรตุเกส ทีมอันดับ 2 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "หมีขาว" รัสเซีย ทีมจ่าฝูง โดยเกมนี้ เจ้าถิ่น ขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 9 จากการยิงของ เฮลเดอร์ ปอสติกา ดาวยิงตัวเก๋า

ครึ่งหลัง ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันสนุก มีโอกาสยิงประตูหลายครั้ง แต่สุดท้ายทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม โปรตุเกส ยัดเยียดความปราชัยให้ รัสเซีย เป็นนัดแรก ด้วยการเอาชนะไป 1-0 มีเพิ่มเป็น 14 คะแนนจาก 7 นัด แซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูง โดยนำ รัสเซีย ที่เตะเท่ากันอยู่ 2 แต้ม

ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน อาร์เซอร์ไบจาน เสมอ ลักเซมเบิร์ก 1-1

ผลกลุ่มอื่น กลุ่มเอ โครเอเชีย แพ้ สกอตแลนด์ 0-1, เบลเยี่ยม ชนะ เซอร์เบีย 2-1, กลุ่ม B อาร์เมเนีย แพ้ มอลตา 0-1, สาธารณรัฐเช็ก เสมอ อิตาลี 0-0 โดยเกมนี้มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าจอมยียวนของอิตาลีมาโดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามไปในนาทีที่72 ด้วย

กลุ่มซี ออสเตรีย ชนะ สวีเดน 2-1, ไอร์แลนด์ ชนะ หมู่เกาะแฟโร 3-0, กลุ่มอี แอลเบเนีย เสมอ นอร์เวย์ 1-1, ไอซ์แลนด์ แพ้ สโลวีเนีย 2-4, กลุ่มจี ลัตเวีย แพ้ บอสเนีย 0-5, ลิกเตนสไตน์ เสมอ สโลวาเกีย 1-1, ลิธัวเนีย แพ้ กรีซ 0-1

กลุ่มเอฟ มอลโดวา เสมอ แลนด์ 1-1, มอนเตเนโกร แพ้ ยูเครน 0-4, กลุ่ม I ฟินแลนด์ ชนะ เบลารุส 1-0

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th