วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประวัติศาสตร์ของสงครามเปอร์เซีย-กรีก

ประมาณปีพ.ศ.63(480ปีก่อนค.ศ.) กองทัพเปอร์เซียของกษัตริย์เซอร์ซิสที1  ได้นำกองทัพขนาดมหาศาลจำนวน500,000คน (ทัพบก250,000  ทัพเรือ250,000)เข้าตีดินแดนกรีกทางเขตมาซีโดเนีย  เพื่อเป็นการล้างแค้นแทนพระบิดาของตนที่เคยพ่ายแพ้สงครามแก่พันธมิตรแห่งกรีกในสงครามเปอร์เซียครั้งแรก  และเป็นการเปิดฉากสงครามเปอร์เซียครั้งที่2

(กองทัพเปอร์เซียจากการที่ผมศึกษามา นักประวัติศาสตร์จำนวนมากบอกว่ามีจำนวนไม่ถึงล้านอย่างที่ใครเข้าใจครับ  เพราะสมัยก่อนประชากรน้อยผู้คนอาศัยกระจัดกระจายเมืองใหญ่ๆไม่ได้มีขนาดอย่างปัจจุบัน  ทหารล้านคนจึงเป็นเรื่องเฟคของผู้บันทึกประวัติศาสตร์เพื่อให้เรื่องราวดูอลังการเฉยๆครับ)

ด้วยความเข้มแข็งของทัพเปอร์เซียและแผนของแม่ทัพกรีกที่จะถ่วงเวลาเพื่อรวบรวมกำลัง  กรีกจึงต้องยอมเสียเมืองเล็กเมืองน้อยให้ฝ่ายเปอร์เซียยึดไล่มาเรื่อยจนทัพเปอร์เซียมาถึงบริเวณช่องเขาแห่งหนึ่งคือ"เธอร์โมไพลี"(Thermopylae) ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายก่อนจะถึงนครเอเธนส์  ช่องเขานี้เองจะกลายเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดแห่งหนึ่งในสงครามครั้งนั้น

ตอนนี้ทัพเปอร์เซียต้องมาเจอกับกองกำลังผสมของทหารเอเธนส์-สปาร์ตา-นครพันธมิตร จำนวน7,000นายซึ่งนำมาโดยกษัตริย์"เลโอนิดาส"แห่งสปาร์ตาผู้เจนศึก  แต่จำนวนทหารสปาร์ตาที่เชี่ยวชาญสงครามนั้นมีจำนวนแค่น้อยนิด  เพราะว่าเวลานั้นเป็นช่วงเทศกาล"คาร์เนี่ยน"ที่ชาวสปาร์ตาเขาถือกันว่าไม่ควรออกทำศึก ทหารสปาร์ตาที่มาจึงเป็นกองกำลังเล็กๆของเลโอนิดาสที่คัดเลือกมานั่นเองครับ

(เทศกาล"คาร์เนี่ยน"จัดขึ้นในสปาร์ตายุคโบราณเพื่อบูชาเทพเจ้าอะพอลโล่ครับ โดยเมื่อถึงเวลาชาวสปาร์ตาจะเก็บตัวและจัดงานฉลองอยู่ในบ้านเมืองตนเองเท่านั้น  และห้ามทหารออกรบรึเข้าร่วมศึกสงครามใดๆทั้งสิ้นครับ)

แถมเกร็ดนิดหน่อยสมัยนั้นกรีกมีการปกครองแบบสาธารณรัฐครับ  มีนครรัฐหลายแห่งมารวมตัวกัน  ซึ่งนครเอเธนส์กะนครสปาร์ตานี้จะเป็นคู่กัดกันตลอดครับ  เพราะเอเธนส์เน้นการปกครองประชาธิปไตยกับการพัฒนาวัฒนธรรมมีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งสุด ส่วนสปาร์ตาเน้นด้านเผด็จการทหารมีกองทัพบกที่แกร่งสุด 2 นครนี้จึงต่างแย่งกันจะเป็นผู้นำของกรีกครับ

รวมถึงจากการที่สปาร์ตาทอดทิ้งเอเธนส์ในสงครามเปอร์เซียครั้งแรก  เมื่อพลนำสารเอเธนส์วิ่งทรหดจากหาดมาราธอนเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากกองทัพสปาร์ตาจนเป็นตำนานอันลือลั่น  แต่สปาร์ตาไม่ส่งกำลังมาช่วยเพราะอ้างว่าอาณาจักรของตนกำลังมีเทศกาล"คาร์เนี่ยน"อยู่

และเหตุการณ์ดันพลิกผันเมื่อเอเธนส์สามารถเอาชนะเปอร์เซียตอนนั้นได้ด้วยกำลังตนเอง  และได้รับการยกย่องจากนครรัฐต่างๆของกรีกให้เป็นผู้นำ  นครสปาร์ตาซึ่งอยากเป็นใหญ่จึงเริ่มมีอคติกับเอเธนส์มากขึ้นครับ)

กลับมาที่เธอโมไพลี กษัตริย์เลโอนิดาสคะเนจากชัยภูมิแล้วจึงให้วางกำลังทหารส่วนหนึ่งไว้บนที่สูงและบริเวณปากช่องเขาครับ  พอทหารเปอร์เซียเดินทัพเข้ามาทางหุบเขาที่เป็นบริเวณแคบอยู่แล้วก็ถูกกำลังของเลโอนิดาสซุ่มโจมตีจนต้องสูญเสียไพร่พลไปจำนวนมาก

สองวันแรกของการรบนั้นสถาณการณ์อยู่ข้างฝ่ายกรีกครับ  ตอนแรกฝ่ายเปอร์เซียส่งทหารชาวเมเดส(Medes)เข้าเป็นหน่วยแนวหน้า  แต่เมื่อชาวเมเดสอันเหี้ยมหาญต้องมาเจอกับยุทธวิธีแบบ"ฟาแลงซ์"(phalanx)ของชาวกรีกเข้าก็ต้องสิ้นท่าครับตายกันเกลื่อนบริเวณ  แม้ต่อมาเซอร์ซิสได้ส่งทหารหน่วยอมตะ(Immortal)จำนวน10,000นายซึงเป็นทหารหน่วยที่เยี่ยมที่สุดเข้าต่อกรแต่ก็ให้ผลไม่แตกต่างกันครับ การรบช่วงแรกชัยชนะจึงตกเป็นของกรีกครับ

(เสริมหน่อยครับยุทธวิธีแบบ"ฟาแลงซ์"เป็นการรบของทหารกรีกโบราณ  คือการให้ทหารแต่ละคนจัดขบวนให้ชิดกันเอาโล่ห์ประจำกายมาตั้งเรียงซ้อนกันและรุกไปข้างหน้าพร้อมหอกยาวในมือ  เป็นการป้องกันลูกธนูกับหอกซัดพร้อมกับตีโต้ไปในตัวได้ดีครับ  ถ้านึกไม่ออกให้ไปดูเรื่อง"ทรอย"ตอนแบรดพิตต์ยกพลทหารขึ้นบกแล้วให้ทหารเอาโล่ห์มาต่อกันน่ะครับ)


คลิปแฉค้านคำให้การสาวลาวอ้างร.ต.ต.ข่มขืน








จากกรณี ร.ต.ต.ธาตรี สืบสมาน รองสวป.สน.ทองหล่อ ที่ขับรถแท็กซี่เป็นอาชีพเสริม ถูกหญิงสาวชาวลาวแจ้งความดำเนินคดี อ้างว่าถูกกักขังและข่มขืน ในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่นั้น คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. รักษาการแทน ผบก.น.5 เปิดเผยว่า กรณีของ ร.ต.ต.ธาตรี เบื้องต้นทราบว่ายังไม่เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ แต่ ร.ต.ต.ธาตรี มีหมายจับอยู่แล้ว หากพบตัวที่ไหน ก็สามารถจับกุมได้ทันที ซึ่งตำรวจนครบาลยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ สำหรับผลการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูล ผบช.น. จึงให้ออกจากราชการไว้ก่อน 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบภาพวงจรปิดจับภาพชัด ผู้เสียหายเดินทางไปที่ห้องพักกับ ร.ต.ต.ธาตรี ด้วยสีหน้าท่าทางปกติ ไม่ได้มีการใส่กุญแจมือ หรือมีพฤติการณ์ฉุดไปข่มขืน คล้ายกับเป็นการยินยอม โดยในภาพฝ่ายหญิงมีการถือถุงอาหารที่มือขวา และอีกวันก็เดินตามตำรวจลงมาอย่างสมัครใจ ซึ่ง พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รวบรวมไว้ แต่การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการทำผิดวินัยร้ายแรง ไม่ว่าจะใช้กำลังหรือไม่ก็ตาม ถือว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งหาก ร.ต.ต.ธาตรี บริสุทธิ์ใจจริง ก็ควรที่จะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ไม่ใช่หลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ทำให้พบว่าสถานที่เกิดเหตุ ร.ต.ต.ธาตรี พาสาวลาวเข้าห้องพักนั้น เป็นห้องพักอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ย่านอุดมสุข 56 แขวงและเขตบางนา ท้องที่ สน.บางนา ซึ่งมีภาพวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ชัดเจน ในวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้เป็นห้องที่ ร.ต.ต.ธาตรี เช่าพักอาศัยเป็นประจำ ซึ่งตรงตามคำให้การของหญิงสาวชาวลาว ว่าเหตุเกิดในวันดังกล่าว และจากการสอบถามพยานทำให้ทราบว่า ร.ต.ต.ธาตรี ไม่มีการบังคับขู่เข็ญ หญิงสาวชาวลาวแต่อย่างใด ทำให้ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ส่อเค้าอลวน เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุนั้น ไม่ได้อยู่ในท้องที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตามที่สาวลาวกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจำต้องประสานพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.เมืองสมุทรปราการ นำสาวลาว มาชี้จุดเกิดเหตุ โดยอาจจำต้องมีการรื้อคดีขึ้นมาดำเนินการใหม่เลยทีเดียว. 

ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์ http://www.dailynews.co.th

ตร.ยืดอกรับผิด กรณี "จราจรไถส่วย" บิ๊กอู๋สั่งจัดการเด็ดขาด





ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวีดีโอความยาว 4.03 นาที หัวข้อเรื่อง “ตำรวจหากินประชาชน!!!(บางคน)” เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียชื่อดังเฟสบุ๊คและยูทูบ โดยเป็นภาพชายแต่งกลายคล้ายตำรวจ  2 นาย คนหนึ่งทำหน้าที่เรียกรถเก๋งและจยย.หลายคันให้จอดริมถนน จากนั้นอีกคนแต่งกายคล้ายตำรวจสวมหมวกเลขรหัส 6636 บางนา จะเดินเข้าไปพูดคุยกับคนขับและรับเงินที่คนขับส่งให้ บางรายก็คืนเงินทอนให้ด้วย ซึ่งผู้ถ่ายคลิปแอบถ่ายพฤติกรรมฉาวจากมุมสูง ระบุข้อความอธิบายด้วยว่า "ถ่ายจากสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง วันที่ 5 พ.ค." จนสร้างความฮือฮาไปทั่วสังคมออนไลน์ตามข่าวนั้น

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะรับผิดชอบงานด้านกฎหมายและสอบสวน รักษาการแทนผบก.น.5 เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ศุภชัย ชัยสุวรรณ รองผกก.จร.สน.บางนาแล้วว่า นายตำรวจที่ปรากฏในคลิปที่มีการเผยแพร่ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนา ชื่อด.ต.นิพนธ์ โศรกหาย ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางนา และได้เรียกตัวมาสอบถามแล้ว ด.ต.นิพนธ์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง ขณะนี้ได้สั่งการให้บก.น.5 ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาพิจารณาข้อบกพร่องกรณีการกระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยมี พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา รองผบก.น. 5 เป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้มีความเห็นให้สั่งพักราชการจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น เนื่องจากเป็นการทำผิดที่เสียหายร้ายแรง คาดว่าจะทราบผลการสอบสวนได้ภายใน 3 วันนี้
 พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า อยากให้ผู้ที่ถูก ด.ต.นิพนธ์ เรียกรับผลประโยชน์ เข้ามาให้การเป็นพยาน เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ  แต่ถ้าหากผู้เสียหายไม่มาแจ้งความให้ดำเนินคดีหรือมาให้ปากคำ ทางตำรวจก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้เท่าที่มีอยู่ แต่น้ำหนักอาจจะไม่หนักแน่นเท่ากับการที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ จากการสอบถามด.ต.นิพนธ์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแค่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง ส่วนนายตำรวจอีกคนที่ปรากฏอยู่ในคลิปด้วยนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา อย่างไรก็ตามจะขอตรวจสอบย้อนหลังไปด้วยว่า ก่อนหน้านี้ด.ต.นิพนธ์ เคยมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์แบบนี้หรือไม่ แต่เท่าที่สอบถามรองผกก.จร.สน.บางนา เบื้องต้นทราบว่า ยังไม่เคยมีประวัติในลักษณะนี้มาก่อน
 เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ทางบช.น.เคยมีการคาดโทษทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกรับสินบน และประชาชนที่ให้เงินกับตำรวจด้วย พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ในเรื่องของคดีการเรียกรับผลประโยชน์นั้น หากมีการดำเนินคดีกับผู้ให้ด้วย ก็จะไม่มีใครมาผู้เสียหายหรือเป็นพยานให้กับพนักงานสอบสวน ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการเรียกรับผลประโยชน์ ต้องมีทั้งสองฝ่ายก็จริง แต่กฎหมายต้องการที่จะลงโทษเจ้าพนักงานที่ไปเรียกรับ ผู้ที่ให้ก็ถือว่ามีความผิด แต่ในโทษทัณฑ์ที่ร้ายแรงกว่าคือความเป็นเจ้าหนักงานและอาศัยเครื่องแบบแสวงหาผลประโยชน์ ดังนั้นทางด้านคุณธรรมก็ต้องให้ความคุ้มครองกับผู้ที่ให้ก่อน เพื่อกันไว้เป็นพยาน ในการที่จะลงโทษผู้กระทำผิด
 “ส่วนเรื่องการตั้งด่านจราจรในบริเวณที่ปรากฏตามภาพนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยกับพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านจราจร ว่า บริเวณดังกล่าวสามารถตั้งด่านได้หรือไม่อย่างไร และในช่วงเวลาดังกล่าวมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะตำรวจที่แสวงหาผลประโยชน์หรือประพฤติตัวนอกลู่นอกทางก็มีวิธีช่องทางในการกระทำความผิดอยู่แล้ว เราเป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องกวดขัน ถ้าพบการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการ ส่วนการดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาโดยตรงของด.ต.นิพนธ์ นั้น ปกติทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ในการให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทางบช.น.เองก็ได้เรียกประชุมผกก.และรองผกก. ให้ควบคุมดูแลลูกน้องไม่ให้มีความประพฤติที่เสียหาย มีขึ้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว ใครบกพร่องก็พิจารณาเป็นรายๆไป” รองผบช.น. กล่าว
 วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปวิดีโอที่ ด.ต.นิพนธ์ โศรกหาย ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางนา เรียกรับเงินจากผู้ขับขี่รถยนต์ และ รถ จยย,บริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้ซ.ลาซาล ใต้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง เผยแพร่ในยูทูปว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร.ได้กำชับใหัดูแลเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะการกระทำผิดที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเทคโนโลยี ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นทางตำรวจนครบาล ได้ชี้แจงมาแล้ว และขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยแจ้งข้อมูลการกระทำผิดดังกล่าว ซึ่ง ตร.ยอมรับข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นอย่างลูกผู้ชาย พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องก็ต้องร่อนตระแกรงออกให้หมด ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือ ผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะได้ข้อเท็จจริง.

ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์ http://www.dailynews.co.th