วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

สั่งสอบดต.ดินแดง-คลิปโฉวิ่งหนีโจ๋

ทั้งชุดตร. คนโพสต์ กล่าวหา! พาผู้หญิง "เปิดห้อง"
ผบช.น.สั่งสอบคลิปวัยรุ่นไล่กวดตร. ในเครื่องแบบที่วิ่งไปขึ้นรถสายตรวจของเพื่อนเผ่นหนี พร้อมตะโกนด่าทอลั่นถนนย่านดินแดง ระบุพาผู้หญิงไปเปิดห้องพาร์ตเมนต์ แต่ฝ่ายหญิงส่งข้อความให้เพื่อนมาช่วยเหลือ ด้านผกก.สน.ดินแดงเผยรู้ตัวแล้วเป็นด.ต.ฝ่ายปราบปราม อยู่ระหว่างลาพักไปสอบขึ้นเป็นชั้นสัญญาบัตร พบเป็นคลิปที่ถ่ายเมื่อ 26 เม.ย. ส่วนเพื่อนสายตรวจที่ไปช่วยพบไม่เกี่ยวข้อง แค่ได้รับแจ้งเหตุแล้วเดินทางไปเท่านั้น แจ้งเจ้าทุกข์มาแสดงตัวเพื่อให้ข้อมูล ยันให้ความเป็นธรรมเต็มที่ ตร.ขอดูภาพวงจรปิดอพาร์ต เมนต์รายวัน พบด.ต.ขี่จยย.พาผู้หญิงมาเปิดห้องพัก ผ่านไปครึ่งชั่วโมงลงจากห้องพบกลุ่มวัยรุ่นดักรออยู่ก่อนวิ่งไล่กวดชุลมุน
จากคลิปอื้อฉาวในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งมีต้นตอมาจากเว็บยูทูบโดยผู้โพสต์ใช้ชื่อ "ไก่จ๋า ได้ยินไหมว่าเสียงใคร" เป็นคลิปกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งไล่ตามชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยเครื่องแบบตำรวจออกมาจากหน้าอพาร์ตเมนต์ เช่ารายวัน พร้อมตะโกนด่าทอตลอดทาง ก่อนที่จะมีตำรวจอีก 2 นายขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจมาพาหลบหนีไป เป็นคลิปที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่าเหตุเกิดที่ย่านดินแดง รุ่นน้องผู้หญิงถูกตำรวจขอตรวจค้นก่อนพาไปยังอพาร์ตเมนต์เช่ารายวัน ทำให้ผู้หญิงแอบส่งข้อความไปยังเพื่อนๆ ตามมาช่วยเหลือ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานแค่ว่ามีประชาชนถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสน.ดินแดง ขณะที่กำลังวิ่งหนีกลุ่มคน และระบุว่าพาผู้หญิงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ยังไม่ได้เห็นคลิป ขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ขณะนี้ทราบว่าตำรวจนายดังกล่าวอยู่ระหว่างลาพักไปสอบเลื่อนขึ้นเป็นชั้นสัญญาบัตร สั่งให้รีบเรียกตัวมาสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดแล้ว
พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รองผบช.น. กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว ให้ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางกับสถานีตำรวจนครบาลดินแดงตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง ว่าเป็นตำรวจในสน.ดินแดง ยศดาบตำรวจ ตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ดินแดง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการลาสอบขึ้นเป็นชั้นสัญญาบัตรที่จังหวัดในภาคใต้และไม่สามารถติดต่อได้ จึงสั่งให้ตำรวจ นครบาล 1 และสน.ดินแดง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ด้านพ.ต.อ.ภานพกล่าวว่า ทราบเรื่องและเห็นคลิปแล้ว เบื้องต้นทราบว่าเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนชายที่วิ่งหนีคือ ด.ต.วรวิทย์ นุกูลกิจ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ฝ่ายปราบปราม สน.ดินแดง ส่วนรายละเอียดและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกับด.ต.วรวิทย์ เนื่องจากลาไปสอบเลื่อนชั้นสัญญาบัตรที่จ.สงขลาถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ก่อนหน้านี้พยายามโทรศัพท์ติดต่อแต่ปิดมือถือ จึงแจ้งกับทางญาติของด.ต.วรวิทย์ให้รีบเดินทางกลับมารายงานตัวทันที และกำลังตรวจสอบอยู่ว่าในคืนเกิดเหตุด.ต.วรวิทย์ เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่ แต่จากในคลิปด.ต.วรวิทย์แต่งเครื่องแบบตำรวจ คาดว่าน่าจะปฏิบัติหน้าที่อยู่
พ.ต.อ.ภานพกล่าวอีกว่า สำหรับตำรวจอีก 2 นายที่ขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไปรับออกมานั้นเป็นตำรวจสน.ดินแดงเช่นกัน แต่สอบแล้วไม่พบว่าเกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่วันเกิดเหตุได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ตรงข้ามซอยประชาสงเคราะห์ 25 จึงไปตรวจสอบ กระทั่งพบชาวบ้านวิ่งไล่ด.ต.วรวิทย์อยู่ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 23 จึงเข้าไปสอบถามและให้เจ้าทุกข์มาแจ้งความ ก่อนที่จะรีบพาด.ต.วรวิทย์ออกจากที่เกิดเหตุเพราะเกรงจะเกิดปะทะกับประชาชน
ผกก.สน.ดินแดงกล่าวอีกว่า ตำรวจสายตรวจที่ไปช่วยเหลือรายงานว่า เมื่อกลับมาถึงโรงพักสอบถามว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น แต่ด.ต. วรวิทย์ไม่ได้ตอบ และรีบออกจากโรงพักไปทันทีโดยไม่ได้พบหน้ากันอีกเพราะอยู่ระหว่างลาพัก สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นนั้นตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีพ.ต.ท. ประพจน์ อนุศิริ รองผกก.สส.สน.ดินแดงเป็นประธาน จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผิดก็ต้องดำเนินคดีทั้งทางกฎหมายและทางวินัย ตอนนี้ยังไม่อยากด่วนสรุปว่าเป็นเรื่องอะไรเพราะยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความและให้ข้อมูลเพิ่มเติม
"อยากขอให้ทางผู้เสียหายเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับผมโดยตรง ซึ่งพร้อมให้ความเป็นธรรม และสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าวและตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งหาพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ และติดตามผู้เสียหายมาแจ้งความ เพื่อที่เรื่องต่างๆ จะได้คลี่คลายโดยเร็ว ส่วนทางผู้บังคับบัญชาได้รายงานให้ทราบแล้ว ซึ่งสั่งกำชับให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด" พ.ต.อ.ภานพกล่าว
วันเดียวกัน ตำรวจสน.ดินแดงเดินทางไปที่อพาร์ตเมนต์รายวันในซอยประชาสง เคราะห์ 23 จุดที่เกิดเหตุวิ่งไล่กันของชายฉกรรจ์กับด.ต.วรวิทย์ เพื่อสอบปากคำพนักงานและขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้หลายตัว โดยเห็นภาพด.ต.วรวิทย์ในชุดเครื่องแบบตำรวจขี่รถจักรยานยนต์พาหญิงสาวคนหนึ่งมาติดต่อขอเปิดห้อง ระหว่าง ด.ต.วรวิทย์พูดคุยกับพนักงาน ฝ่ายหญิงถือโอกาสกดโทรศัพท์มือถือ คาดว่าส่งข้อความถึงเพื่อนๆ จากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินขึ้นไปชั้นบน
เวลาผ่านไปประมาณ 14 นาที มีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินทางมาที่อพาร์ตเมนต์ กระทั่งเวลาผ่านไปอีก 16 นาที หญิงสาวเดินลงจากชั้นบนเข้าหากลุ่มชายฉกรรจ์ และอีกไม่กี่อึดใจต่อมาด.ต.วรวิทย์เดินตามลงมา ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์กรูเข้าหาและวิ่งไล่กวดกันออกจากอพาร์ตเมนต์ไป



ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

สะพานแขวนขาด ตายหมู่! รถรา-คนร่วงจมน้ำ

ค้นเจอแล้ว6ศพ ข้ามแม่น้ำป่าสัก วัดสะตือ"พ่อโต" สะลิงรับไม่ไหว ทั้งๆที่เพิ่งซ่อม
 สยอง"สะพานแขวน" ขาดจมลงแม่น้ำป่าสัก สังเวยทันที 6 ศพ นับร้อยชีวิตแตกตื่นหนีตายโกลาหล เผยเป็นสะพานเก่าแก่ข้างวัดสะตือหลวงพ่อโต วัดดัง อ.ท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา สาเหตุเกิดจากลวดสะลิงรับน้ำหนักไม่ไหว แฉเพิ่งซ่อมใหญ่หลังน้ำท่วมใหญ่ปี 54 อธิบดีปภ.รายงานด่วนถึงนายกฯยิ่งลักษณ์ เร่งหาผู้ที่ยังสูญหาย 
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 28 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสะพานปูน (สะพานแขวน) ชื่อสะพาน 200 ปี ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 120 เมตรข้ามแม่น้ำป่าสัก ระหว่างหมู่ที่ 5 บริเวณเขื่อนพระราม 6 ข้ามไปหมู่ที่ 6 วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดพังถล่มหัก 2 ท่อนลงไปในแม่น้ำป่าสัก ส่งผลให้ประชาชนที่กำลังสัญจรไปมาบนสะพานโดยรถจักรยานยนต์ตกลงไปในแม่น้ำ นอกจากนี้คานใต้สะพานดังกล่าวยังได้หักพังลงไปทับผู้เสียชีวิตทันที 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงอายุประมาณ 12 ปี และบาดเจ็บอีกประมาณ 15 ราย ชาวบ้านจึงช่วยกันทยอยนําตัวผู้บาดเจ็บส่ง ร.พ.ท่าเรือ เป็นการด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา และใกล้เคียง ระดมกำลังเดินทางมายังจุดเกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งการให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลําบากเนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาด และยังมีชาวบ้านนับพันคนเข้ามามุงดูบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอยู่ด้านบน และกู้ภัยอีกชุดลงงมค้นหาผู้ที่คาดว่าจะติดอยู่ใต้ซากสะพานดังกล่าวในแม่น้ำ ก่อนจะยุติการค้นหาในช่วงค่ำโดยไม่พบผู้เสียชีวิต

 สําหรับสะพานแห่งนี้ก่อสร้างในช่วงเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี เมื่อปี 2525 ล่าสุดทางเทศบาลท่าคลอง เจ้าของพื้นที่ เพิ่งบูรณะสะพานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากใช้งานมากว่า 30 ปี สภาพชำรุดจนกระทั่งพังลงมาในวันนี้
ต่อมา เวลา 19.30 น. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเป็นหนังสือด่วนเหตุการณ์สะพาน 200 ปี ถล่มครั้งนี้ถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า เมื่อเวลา 17.30 น. เกิดเหตุสะพานแขวน 200 ปี บริเวณวัดสะตือพุทธไสยาสน์ บ้านท่างาม หมู่ 6 ต. ท่าหลวง อ.ท่าเรือ ลวดสะลิงขาดและถล่ม เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 45 ราย ส่วนผู้สูญหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ ทั้งนี้สะพานดังกล่าวเป็นสะพานแขวนลวดสะลิงในชุมชน ประชาชนใช้สัญจรและจยย.ข้ามแม่น้ำป่าสัก กว้าง 2.3 เมตร ยาว 120 เมตร
นายชัยยุทธ สุดประเสริฐ กำนันตำบลท่าหลวง เปิดเผยว่า สะพาน 200 ปี แห่งนี้ได้ก่อสร้างเมื่อครั้งฉลอง 200 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ ใช้สัญจรระหว่างชาวบ้าน หมู่ 5 และ 6 ต.บ้าน หลวง และเพิ่งซ่อมใหญ่เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา งบประมาณ 8 ล้านบาท หลังซ่อมเสร็จ สะพานทรุดในด้านซ้าย สะลิงมีลักษณะสั่นคลอน และแจ้งประชาชนให้ใช้สะพานด้วยความระมัดระวัง อย่าพยายามขึ้นไปเดินจำนวนมาก เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย และประสานเทศบาลตำบลท่าหลวงเร่งมาซ่อมแซม แต่ก็มาเกิดเหตุสลดขึ้นจนได้ ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุที่วัดสะตือมีการจัดตลาดนัดในวันหยุด จึงมีประชาชนจำนวนมากใช้เส้นทางสัญจรไปมา โดยสะพานดังกล่าวใช้ได้เฉพาะรถจยย.และคนเดินเท่านั้น ส่วนรถใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ ระหว่างเกิดเหตุชาวบ้านแจ้งว่ามีเสียงดังคล้ายสายลวดสะลิงขาดกลางสะพานด้านซ้าย จากนั้นสะพานพลิกม้วนคว่ำลงแล้วขาด ทำให้คนที่อยู่บนสะพานกว่า 20 คนและกำลังขับขี่จยย.ข้าม 4 คันร่วงจากสะพาน หลายคนถูกชิ้นส่วนสะพานที่เป็นคอนกรีตตกลงไปทับทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 
นอกจากนี้ นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญ วรกุล นายกอบจ.พระนครศรีอยุธยา และพล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จ. พระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสั่งการให้สอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่นายประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ร.พ.ท่าเรือด้วย



ด้านนายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากลวดสะลิงที่ใช้ขึงสะพานของวัดสะตือ ต.ท่าหลวง เกิดขาดทำให้กลางสะพานหักลงไปในแม่น้ำป่าสัก และคอสะพานกระแทกเข้ากับพื้นดิน ส่งผลให้ชาวบ้านที่ใช้สะพานสัญจรข้ามไปมา ระหว่าง ม.5 บริเวณเขื่อนพระราม 6 ข้ามไป ม.6 วัดสะตือ ตกลงมาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และในวันนี้บริเวณวัดสะตือ มีตลาดนัดเปิดท้ายขายของทําให้ประชาชนละแวกใกล้เคียงอาศัยสะพานแห่งนี้ข้ามมาซื้อสินค้าจํานวนมาก ซึ่งก็อาจจะทําให้สะพานซึ่งมี สภาพเก่าแก่รับน้ำหนักไม่ไหวจึงพังครืนลงมาทับผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามคงต้องให้วิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้างของเทศบาล ต.ท่าหลวง ได้เข้ามาตรวจสอบโครงสร้างสะพานดังกล่าวอีกครั้งเพื่อสรุปถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สําหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตที่พบศพแล้ว จํานวน 6 ราย ประกอบด้วย ด.ญ.ปิริยาพร เสือสมิง อายุ 10 ขวบ นายสามารถ ญานปัญญา อายุ 33 ปี น.ส.เกศิณี ชบาศรี อายุ 54 ปี นายณัฐวุฒิ ใจจง อายุ 24 ปี รวมทั้งชายยังไม่ทราบชื่ออีก 2 คน 

ส่วนผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย ด.ช.วาธิชัย ญานปัญญา อายุ 5 ขวบ นายจักรกฤษ แก่นวงศษ์ อายุ 37 ปี ด.ญ.สุธิดา ลัดดาอ่อน อายุ 9 ขวบ น.ส.สุวนัน พวงทอง อายุ 16 ปี นางดวงแข นิรันดร์สุข อายุ 39 ปี น.ส.กฤติยา สมอาจ อายุ 20 ปี น.ส.สุกานดา ขุนช้าง อายุ 33 ปี น.ส.รุ่งนภา แก้วสิทธิ์ อายุ 31 ปี และ ด.ญ.อรธิชา ลือดาว อายุ 3 ขวบ โดยผู้บาดเจ็บถูกกระจายนําส่ง 4 ร.พ. ประกอบด้วย ร.พ.ท่าเรือ ร.พ.ดอนพุด ร.พ.ภาชี และ ร.พ.บ้านหมอ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th