วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หญิงนักสูบเสียสุขภาพมากกว่าชาย!



ยังค้นพบผลร้ายที่มีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องสำหรับบุหรี่ ล่าสุด มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่  เปิดเผยรายงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยทรอมโซ  ประเทศนอร์เวย์ ที่พบว่า หญิงนักสูบบุหรี่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าชายที่สูบบุหรี่ถึงสองเท่า
การศึกษาดังกล่าว ทีมวิจัยวิเคราะห์จากเวชระเบียนของผู้ป่วยหกแสนราย  พบว่า ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหญิงที่สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 ส่วนเพศชายที่สูบบุหรี่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9  นอกจากนี้ยังพบความเสี่ยงเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นชัดเจนในหญิงที่เริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุ 16 ปี หรือสูบมาก่อนนั้นและสูบอย่างต่อเนื่อง
ทาง ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เผยว่า หญิงที่สูบบุหรี่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมากกว่าผู้ชายที่สูบบุหรี่  ทั้งยังมีงานวิจัยพบว่า หญิงที่สูบบุหรี่เสี่ยงจะเกิดโรคหัวใจวายจากเส้นเลือดหัวใจตีบมากกว่าชายที่สูบบุหรี่  ขณะที่วัยรุ่นหญิงที่ไม่สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่มือสอง มักมีระดับไขมันชนิดดีลดต่ำลงกว่าปกติ โดยไม่พบความผิดปกติลักษณะเดียวกันในวัยรุ่นชายที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง
นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ.2552 มีการสำรวจการสูบบุหรี่ในผู้ใหญ่ระดับโลก พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของหญิงไทยอายุมากกว่า 15 ปี  เท่ากับร้อยละ 3.1  คิดเป็นจำนวนหญิงไทยที่สูบบุหรี่ทั้งสิ้น 8.4 แสนคน และมีหญิงไทย 8.8 ล้านคนได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน และ 1 ล้านคนในที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการสูบบุหรี่ของหญิงไทยจะยังอยู่ในระดับต่ำ  แต่ผลการสำรวจก็พบว่าแนวโน้มการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นหญิงไทยมีอัตราเพิ่มขึ้น  เนื่องจากบริษัทบุหรี่มีการผลิตบุหรี่ตราใหม่ๆ สำหรับผู้หญิงเรื่อยมา ศ.นพ.ประกิต จึงหวังให้ทุกฝ่ายในสังคมไทย ช่วยกันรักษาค่านิยมที่ไม่สูบบุหรี่ของหญิงไทยไว้.

ที่มา เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th


ชมภาพชุดเสือใต้ฉลองแชมป์ยิ่งใหญ่ สาด-ซดเบียร์ แห่ทั่วเมือง

เมื่อ 11 พ.ค. "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ฉลองแชมป์บุนเดสลีกาครั้งที่ 23 อย่างชื่นมื่นสุดเหวี่ยง หลังเปิดบ้านเอาชนะเอาส์บวร์ก 3-0 ประตู และยังมีโอกาสลุ้นเทรเบิ้ล แชมป์ กับเดเอฟเบโพคาลและยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยพลพรรคเสือใต้ต่างสาดและซดเบียร์ฉลองกันสุดเหวี่ยงในสนามอัลลิแอนซ์ อารีนา หลังทำพิธีรับถาดแชมป์ ที่เชิญบรรดานักเตะดาวดังในอดีตมายืนตั้งแถวให้

 ขณะที่กองเชียร์ส่งเสียงขอบคุณให้จุปป์ ไฮน์เกส ผู้จัดการทีมเป็นพิเศษ เพราะจะคุมทีมจบในฤดูกาลนี้ด้วยความสำเร็จยิ่งใหญ่ ก่อนส่งไม้ต่อให้เป๊ป กวาร์ดิโอลา

 หลังจากนั้นเหล่านักเตะและทีมงานเสือใต้ นั่งรถแห่ไปทั่วเมืองมิวนิก ก่อนขึ้นไปโชว์ถาดแชมป์ต่อแฟนๆ หน้าระเบียงอาคารศาลาว่าการเมืองมิวนิก
 
 "ไม่มีทีมใดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่จะเล่นฟุตบอลได้อย่างที่เราทำได้ในปีนี้ เป็นระดับติดลมบน ที่ผมภูมิใจมาก" ไฮน์เกส วัย 68 ปีมาหมาดๆ กล่าว

                                

 เกมนี้ เสือใต้เปิดบ้านต้อนรับ เอาก์สบวร์ก โดยตลอดเกมการแข่งขันในครึ่งแรก เป็นบาเยิร์นบุกแหลก มีจังหวะพังประตูหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที 70 ดานเต้ บอมฟิม เติมเกมขึ้นมาเปิดโค้งไปเสาไกลให้ โธมัส มุลเลอร์ เทกตัวโขกเหน่งๆเสียบเสาสวยงาม 1-0 
                                
 พอขึ้นนำบาเยิร์นเล่นสบาย นาที 82 นำห่าง ฟร้องค์ ริเบรี่ พาไปถึงเส้นหลังมีกองหลังทีมเยือนขวางประมาณสี่ห้าคน แต่ยังเปิดเข้ากลางมาถึง เซอร์ดาน ชาคิรี่ หมุนตัวยิงเข้าไปง่ายๆ 2-0 จากนั้นอีกหกนาทีต่อมา เจ้าบ้านตอกย้ำชัยชนะ ฟร้องค์ ริเบรี่ ไหลจากกราบขวามาถึง ลุยซ์ กุสตาโว อัดด้วยซ้าย อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ ปัดได้แต่บอลยังแรงพอพุ่งชนตาข่าย จบเกม บาเบิร์น ถล่ม เอาก์สบวร์ก 3-0
                               
ด้านดอร์ตมุนด์รองจ่าฝูงที่จะชิงชนะเลิศกับบาเยิร์นในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดนี้โชว์พาวไล่ตามโวล์ฟสบวร์กที่นำไปแล้ว 3-0 ด้วยการจบเกมที่ 3-3 โดยเป็นผลงานเด่นของมาร์โก้ รอยส์ นักเตะดาวดังของทีม 2 ประตู

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ต้านไม่ไหว แอสตันวิลล่าพ่ายเชลซี 1-2 "แลมพาร์ด" ขึ้นแท่นดาวยิงสิงห์


เมื่อ 11 พ.ค. การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านรับการมาเยือนของเชลซี โดยทีมผู้มาเยือนต้องการสามแต้ม เพื่อการันตีการไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า ขณะที่เจ้าบ้านก็อยู่ในช่วงหนีตกชั้น โดย ช่วงต้นเกมทั้งคู่ยังผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่ในนาทีที่ 14 เจ้าถิ่นก็ได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ เบนเตเก้ได้บอลตรงกลางสนาม ก่อนลากหลบ เคฮิลล์และซัดด้วยซ้ายเสียบเสาแรกเข้าไป ช่วยให้แอสตัน วิลลา ออกนำเป็น 1-0
                                  

สถานการณ์ของเชลซีย่ำแย่ไปอีก จากจังหวะที่รามิเรส ไปยกเท้าสูงใส่อักบอนลาฮอร์และผู้ตัดสินก็ไม่รอช้าชักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่กองกลางชาวแซมบ้าออกจากสนาม และสุดท้ายก็เป่านกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก

                                 
เริ่มครึ่งหลังเจ้าถิ่นที่มีผู้เล่นมากกว่า สามารถครองเกมบุกได้เกือบหมด ทว่า นาที 58 วิลลาก็ต้องมาเหลือนักแตะแค่ 10 คนบ้างจากจังหวะที่เบนเตเก้ ไปยกเท้าสูงใส่ จอห์น เทอร์รี และเป็นใบเหลืองที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ 

จากนั้นไม่นาน เชลซีก็มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่อาซาร์ ไหลให้แลมพาร์ด ปล่อยบอลไหลก่อนสับไกด้วยซ้าย เสียบเสาสองเข้าไปช่วยให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-1 พร้อมทำให้แฟรงกี้ ทำสถิติเป็นดาวยิงของทีมสูงสุดเท่ากับบ็อบบี้ แทมบลิงที่ 202 ประตูเรียบร้อยแล้ว
                                 
นาที 89 เชลซีมาได้ประตูพลิกขึ้นนำได้สำเร็จจากจังหวะที่ อาซาร์พาบอลมาสุดเส้นก่อนตบกลับมาให้ แลมพาร์ดสอดเข้ามาแปง่ายๆ เสียบตาข่ายเข้าไปช่วยให้ทีมออกนำ 2-1 พร้อมเป็นประตูที่ 203 ของ แลมพาร์ด ทำลายสถิติของ แทมบลิงที่ 202 ประตูได้เรียบร้อยแล้ว

ช่วงเวลาที่เหลือทีมสิงห์ผงาดพยายามอย่างหนักเพื่อหวังประตูตีเสมอ แต่ทำได้ไม่สำเร็จก่อนที่ลี เมสันจะเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันเป็น เชลซีที่เอาชนะไป 2-1 พร้อมการันตีการไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า


ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ช็อกล็อกถล่ม ! วีแกนซัดเรือใบ10คน นาทีท้าย ซิวแชมป์เอฟเอคัพ มันชินี่ยัวะ จ่อโดนเด้ง


ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีก กับ วีแกน ทีมอันดับ 3 จากท้ายตาราง เกิดรายการแจ๊กฆ่ายักษ์ เมื่อวีแกนเฉือนชนะทีมเรือใบสีฟ้า ในนาทีสุดท้าย ด้วยลูกโหม่งช็อกเกม ทำให้วีแกนคว้าแชมป์รายการใหญ่ในรอบ 81 ปีในประวัติศาสตร์ของสโมสร ส่วนแมนซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก ต้องปิดฤดูกาลนี้แบบมือเปล่า
 สำหรับเกมครึ่งแรก สองทีมพังตาข่ายกันไม่ได้ โดยเฉพาะฝั่งแมนซิตี้ที่บุกมากกว่า จึงเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลังนาทีที่ 84 เกิดจุดเปลี่ยนของเกมขึ้นเมื่อ ปาโบล ซาบาเลต้า กองหลังแมนฯซิตี้ ไปสกัด คัลลั่ม แม็กมานามาน ปีกวีแกนในจังหวะหลุดเข้าเขตโทษ ทำให้ซาบาเลต้า โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงออกจากสนามไป

 ก่อนที่ในช่วงนาทีสุดท้าย วีแกนมาได้ลูกเตะมุม ฌอน มาโลนี่ เปิดเข้าหัว เบน วัตสัน ตัวสำรองโขกเต็มหัวเข้าไป ทำให้วีแกนเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 คว้าแชมป์เอฟเอคัพ ไปครองได้สำเร็จ
                            
 โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ โค้ชฮีโร่ของวีแกน กล่าวว่า "ทีมเราเล่นได้เหลือเชื่อมาก เราไม่ได้ชนะเพราะโชคช่วย แต่เพราะเล่นดีตั้งแต่ต้นจนจบ เอฟเอคัพเป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ ไม่มีใครเชื่อว่าเราจะทำได้ แต่เราก็ยังสานต่อความฝัน มันอธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้หรอก นักเตะของผมสู้กับอุปสรรคด้วยรอยยิ้ม ทุกคนสมควรภาคภูมิใจในวันนี้ ผมภูมิใจในพวกเขามาก"
                            
 ด้านโรแบร์โต้ มันชินี่ โค้ชแมนซิตี้ ให้สัมภาษณ์บ่งบอกถึงอาการยัวะเจ้าหน้าที่ของแมนซิตี้ ที่ไม่ช่วยปฏิเสธกระแสข่าวกระหึ่มที่ว่าตนเองจะถูกปลดแน่หลังเกมนี้  โดยแมนซิตี้จะดึงมานูเอล เปเยกรินี โค้ชมาลาก้า มาคุมทีมแทน
                             
 "คุณพูดเรื่องนี้ต่อเนื่องมา 6 เดือนแล้วนะ และพูดหนักขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ ผมไม่รู้ว่าทำไมสโมสรถึงไม่หยุดข่าวลือนี้ ซึ่งผมไม่คิดว่าจริง และผมก็จะไม่ไปถามสโมสรด้วย ไม่มีเหตุผลอะไรต้องไปถาม เอาเป็นว่า ถ้ามันไม่จริง คุณก็เขียนข่าวงี่เง่านี่มา 6 เดือน แต่ถ้ามันจริง ผมเองก็คงงี่เง่า เพราะผมไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ผมทำงานกับคนที่จริงจังนะ และผมคิดว่าผมทำดีแล้วด้วย" มันชินี่ กล่าว

                             





ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

มิน ยันไม่ได้น้อยใจหนุ่ม "พอร์ช"

 เมื่อบ่ายวันที่ 11 พ.ค. ที่ชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีการจัดงานงาน“Money Expo มหกรรมการเงิน มันนี่ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 13” และบูธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ‘มิน’ พีชญา วัฒนามนตรี นางเอกสาวหน้าหวานวิกหมอชิตได้ไปร้องเพลงให้กับแฟนๆ และหลังจากเสร็จสิ้นการขึ้นเวที เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงประเด็นที่ว่าช่วงนี้ดูเศร้าเพราะเห็นจากรูปในอินสตาแกรม โดยนางเอกสาวเผยว่า ตนไม่ได้เศร้า รูปในไอจีที่เห็นกันรูปนั้นเป็นรูปละคร เห็นว่ามันสวยดีก็เอามาโพสต์ลง ส่วนคำคอมเม้นท์ข้างใต้ ก็เป็นการให้กำลังใจเพื่อนตน และในส่วนที่ว่าโดนโยงไปว่าตนน้อยใจ ‘พอร์ช’ ศรัณย์ ศิริลักษณ์ พระเอกหนุ่มร่วมช่อง ที่ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเพื่อนกัน ตนกับพอร์ชเป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่มีเหตุผลที่ต้องทะเลาะกัน
                                       
 “มินไม่ได้น้อยใจเลย และไม่มีการอันฟอลโลว์ไอจีของพอร์ชด้วยค่ะ ถ้าไปดูดีๆตั้งแต่เล่นไอจีมา ไม่เคยอันฟอลโลว์ใครเลยค่ะ ก็ยังตามกันอยู่ค่ะ อุปกรณ์ไอทีมันก็มีจุดบกพร่องกันบ้างมันก็เป็นการเข้าใจกันผิดค่ะ ไม่ได้คิดอะไร กับข่าวที่ออกมาก็ตลกค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ มินไม่คิดอะไรอยู่แล้ว มันก็อย่างที่เห็น มินก็ไปดูในแอคเค้าท์ ก็ไม่มีการอันฟอลโล่ใดๆค่ะ เราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ไม่มีเหตุผลที่จะอันฟอลโลว์กันเลยค่ะ” 

 นางเอกสาวเผยต่อว่าความสัมพันธ์กับ ‘พอร์ช’ จะพัฒนาไปมากกว่าเพื่อนหรือเปล่านั้น ตนยังตอบไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้อยู่ตรงจุดนี้มันดีอยู่แล้ว ตนสนิทกับพระเอกหนุ่มจากการทำงาน ให้เกียรติกัน ยินดีร่วมงานกันเสมอแค่นี้ก็พอแล้ว 

 “ส่วนที่มีคนลุ้นคู่ของเราว่าจะลุ้นขึ้นหรือลุ้นเก้อนั้นมันก็เป็นความน่ารักของละครแต่ละเรื่อง ที่มีพระเอก-นางเอกให้จิ้นกัน เป็นความน่ารักของละครมากกว่า นอกเหนือจากละครเอาไว้ทีหลังแล้วกันค่ะ ตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว”


ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

"น้องลิต้า" คว้ามิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2013


                                     

 เมื่อเวลา 19.25 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ 1-2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ประธานอำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013 ร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 จัดการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013 รอบตัดสิน โดยมีนายกนิษฐ์ สารสิน และน.ส.อลิซาเบธ แชดเลอร์ รับหน้าที่พิธีกร

 การประกวดเริ่มขึ้นโดย 44 สาวงามออกมาแนะนำตัวในชุดว่ายน้ำบีเอสซี สวิมแวร์ สีสันสดใสบนเวทีที่ตบแต่งงดงามในบรรยากาศท้องทะเลอันดามัน ต่อด้วยการประกาศผู้เข้ารอบ 12 คน จากนั้นสาวงามทั้ง 12 ออกมาอวดโฉมในชุดว่ายน้ำและชุดผ้าปาเต๊ะจากห้องเสื้อโนริโกะ ประกอบการแสดงพิเศษชุด อาภรณ์ อันดามัน โดยศิลปินสิงโต นำโชค แอนด์เดอะลักกี้แบนด์ 

 ต่อด้วยการแสดงพิเศษเดือนในหมู่ดาวโดยเหล่าศิลปินเดอะสตาร์พร้อมเหล่าสาวงาม12 คนเดินอวดโฉมในชุดราตรีจากห้องเสื้อวทานิกา ก่อนเข้าสู่ช่วงประกาศรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ได้แก่ หมายเลข 27 น.ส.ชลธิชา เที่ยงธรรม หรือน้องจีจี้ อายุ 18 ปี รับเงินรางวัล 1 แสนบาทพร้อมถ้วยเกียรติยศและสายสะพาย และรางวัลมิส ป๊อป ปูลาร์ โดย เอไอเอส สามจี ได้แก่ หมายเลข 21 ว่าที่ร.ต.หญิงวรรณภา ศรีผสม หรือน้องน้ำฟ้า อายุ 24 ปี รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท พร้อมสายสะพาย 

 การประกวดเริ่มเข้มขึ้นเมื่อมาถึงช่วงประกาศผลผู้เข้ารอบ5 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 27 น.ส.ชลธิชา เที่ยงธรรม หรือน้องจีจี้, หมายเลข 11 น.ส.ชาลิตา แย้มวัณณังค์ หรือน้องลิต้า, หมายเลข 30 น.ส.สุนิดพร ศรีสุวรรณ หรือน้องเล็ก,  หมายเลข 37 น.ส.สกาวรรณ สิงหปรีชา หรือน้องแพรวา และหมายเลข 38 น.ส.วันวิสา ประภาสิริวิชัยกุล หรือน้องจำปา

 จากนั้นผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายตอบคำถามคณะกรรมการด้วยคำถามต่างกัน ก่อนที่น.ส.ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์ หรือริด้า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 จะปรากฏตัวบนเวทีเพื่ออำลาตำแหน่ง

 กระทั่งนาทีที่ทุกคนรอคอยมาถึง เมื่อพิธีกรประกาศผลตัดสิน ปรากฏว่า หมายเลข 11 น.ส.ชาลิตา แย้มวัณณังค์ หรือน้องลิต้า อายุ 24 ปี เจ้าของความสูง 176 ซ.ม. น้ำหนัก 53 ก.ก. การศึกษาคณะการจัดการท่องเที่ยวและการตลาด มหาวิทยาลัย Bournemouth ตอบคำถามชนะใจกรรมการ คว้ามงกุฎ �มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013� เงินรางวัล 1 ล้านบาท มงกุฎเพชร ชุดเครื่องประดับ จาก บิวตี้ เจมส์ สายสะพายและถ้วยเกียรติยศแก้วคริสตัล รถยนต์โตโยต้า พรีอุส และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท พร้อมเป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2013

 โดยน้องลิต้าตอบถามคณะกรรมการที่ว่าคุณกลัวอะไรมากที่สุดว่า สิ่งที่กลัวคือการมีโอกาสแต่ไม่คว้าเอาไว้ เพราะเวลาไม่สามารถย้อนกลับมาได้ อย่างเช่นการประกวดครั้งนี้ลิต้าได้คว้าโอกาสการประกวดจนเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย

 ด้าน รองอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 27 น.ส.ชลธิชา เที่ยงธรรม หรือน้องจีจี้ เจ้าของรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนรับเงินรางวัล 5 แสนบาท พร้อมสายสะพายและถ้วยเกียรติยศ ส่วนรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อีก 3 ตำแหน่ง ได้แก่ หมายเลข 30 น.ส.สุนิดพร ศรีสุวรรณ หรือน้องเล็ก , หมายเลข 37 น.ส.สกาวรรณ สิงหปรีชา หรือน้องแพรวา และหมายเลข 38 น.ส.วันวิสา ประภาสิริวิชัยกุล หรือน้องจำปา รับเงินรางวัล 2 แสนบาท พร้อมสายสะพายและถ้วยเกียรติยศ
                                                    
                               
 สำหรับน้องลิต้าเป็นสาวเมืองโคราช เคยคว้าตำแหน่งนางงามโคราช ปี 2550 จบการศึกษามหาบัณฑิตด้านการจัดการการท่องเที่ยวและการตลาด มหาวิทยาลัยบอร์นมัธ ประเทศอังกฤษ ประกอบอาชีพติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ พกพาความมั่นใจเกินร้อยเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ ความสามารถพิเศษคือการเต้นระบำหน้าท้อง


ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

5 นักโทษเรือนจำทุ่งสงก่อจลาจล!! จับผู้คุมตัวประกัน-แทงสาหัส ปีนกำแพงหนี เจอยิงสกัดดับ 1

 เวลา 10.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่เรือนจำทุ่งสง ม.7 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ได้เกิดเหตุนักโทษในเรือนจำทุ่งสงก่อเหตุจลาจล โดยพล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีฯ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากทางเรือนจำทุ่งสงว่ามีนักโทษก่อเหตุจลาจล จึงได้ส่งกำลังเกือบร้อยนายเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ซึ่งล่าสุดจนท.ตร.ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว
                                        

 โดยเบื้องต้นทราบว่า ได้มีนักโทษชาย 5 คน ได้พยายามที่จะปีนกำแพงเพื่อหลบหนีออกนอกเรือนจำ และโดนผู้คุมซึ่งอยู่ด้านนอกยิงสกัด ทำให้นักโทษทั้ง 5 คน ได้จับตัวผู้คุมที่อยู่ด้านในเป็นตัวประกันและผู้คุมที่ถูกจับตัวได้สลัดตัวหนี จึงถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ไหล่ซ้ายได้รับบาดเจ็บ

 ล่าสุดนายพิชิต วรรณจิต ผบ.เรือนจำทุ่งสง นครฯ ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมกับนายสุรพล แก้วภราดรัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีฯ โดยยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในเรือนจำ โดยได้มีการสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด ในขณะที่บรรยากาศทั่วไปมีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดเวลา เบื้องต้นทราบชื่อผู้คุมที่ได้รับบาดเจ็บคือ นายสมบูรณ์ แสงสีดำ อายุ 56 ปี เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงานอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ทุ่งสง ส่วนนักโทษที่ก่อเหตุทั้ง 5 คน คือ นายศิริชัย เพชรดี คดียาเสพติดและอาวุธปืน,นายสุริยา ชูอินทร์คดียาเสพติด , นายสุรเชษฐ์ สอนมณี คดีอาวุธปืน, นายสุริยา ไกรถาวร คดีอาวุธปืน และนายสหัส หมื่นเรือง คดียาเสพติด

  นายพิชิต  เปิดเผยถึงเหตุการณ์นักโทษก่อเหตุหลบหนีว่า นักโทษได้วางแผนและใช้วันหยุดราชการซึ่งมีจำนวนผู้คุมน้อยเป็นวันก่อเหตุโดยใช้เหล็กแหลมที่ประดิษฐ์ขึ้นเองเป็นอาวุธจี้ผู้คุม คือ นายสมบูรณ์ เป็นตัวประกันและทำร้ายผู้คุมได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้พยายามที่จะปีนกำแพงสูง 4 เมตรเพื่อหลบหนี แต่ผู้คุมที่อยู่อยู่ด้านนอกได้ใช้ปืนลูกซองยิงสกัด และกระสุนโดนนักโทษได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งคน คือ นายศิริชัย เพชรดี หากจนท.ไม่ยิงสกัดนักโทษก็คงจะหลบหนีได้ ซึ่งจริงๆ หากผู้คุมของเราจะยิงจริงๆ ก็คงเสียชีวิตหมด แต่เราไม่ทำเพราะถือว่านักโทษก็เป็นเสมือนพี่น้องกันกับเรา และหลังจากนั้นทางเรือนจำได้วิทยุขอกำลังจากตร.สภ.ทุ่งสงได้เข้ามาช่วยเหลือโดยพ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง ได้นำกำลังเกือบร้อยนายเข้ามาควบคุมสถานการณ์ซึ่งสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชม. ต้องขอขอบคุณตำรวจทุ่งสงเป็นอย่างมากที่สามารถคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
                                      
 ผบ.เรือนจำ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มนักโทษที่ก่อเหตุทั้ง 5 คน ในคดีพยายามที่จะหลบหนีออกจากที่คุมขังและทำร้ายเจ้าหน้าที่โดยจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไปด้วยว่ายังมีนักโทษคนใดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งทุกอย่างจะต้องว่าไปตามคดีและกฏหมาย จากนี้ก็จะมีการส่งตัวนักโทษทั้ง 5 คนไปยังเรือนจำกลางนครฯ ต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นของเรือนจำทุ่งสงนั้น เรามีจนท.เรือนจำน้อยมากมีเพียง 50 คน ขณะที่จำนวนนักโทษทั้งหมดมี 1,974 คน ในรอบ 6 เดือน ที่ตนย้ายมาอยู่ที่เรือนจำทุ่งสง ตนก็พยายามที่จะทำเรือนจำทุ่งสงให้เป็นเรือนจำสีขาวและสามารถดำเนินการให้เป็นเรือนจำสีขาวไปบ้างแล้วในบางส่วนของเรือนจำทุ่งสง ที่ผ่านมาได้มีการก็ส่งกลุ่มรุนแรงออกไปแล้วถึง 300 คน แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกซึ่งกลุ่มนี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ ที่จะต่อต้านการดำเนินการของเรือนจำ อยากให้ผู้บังบัญชาได้ช่วยเหลือเรื่องกำลังจนท.เรือนจำเพราะไม่เพียงพอกับจำนวนนักโทษและนักโทษที่เรือนจำนี้ค่อนข้างรุนแรงกว่าที่ปากพนังและที่อื่นๆ
                                        
  ทั้งนี้มีรายงานว่า นักโทษชายศิริชัยที่ถูกยิง ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตแล้ว




ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ว่าที่เจ้าสาวสุดเศร้า!! โร่แจ้งจับหนุ่มแบงก์ธกส.เบี้ยวขันหมาก-สูญเงินกว่า 2 แสน

เวลา 10.00 น. วันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า น.ส.ทัตชญา ประชุมสาร อายุ 21 ปี อยู่ม.5 ต.นายาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี พร้อมนางภาวนา ประชุมสาร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแม่และพี่น้องพร้อมเพื่อนๆ อีกจำนวนหนึ่งรวมกว่า 10 คน เดินทางมาที่ สภ.เมืองลพบุรี โดย น.ส.ทัตชญาอยู่ในชุดเจ้าสาวเตรียมที่จะเข้าพิธีวิวาห์ ได้เข้าพบกับ ร.ต.ท.ศุภชัย ดีมงคล ร้อยเวรฯ พร้อมแจ้งว่าต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับนายณัฐพัชร์ โฮฬาร อายุ 29 ปี แฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) สาขาพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ที่หลอกลวงทำให้ตนและเมียสูญเสียทรัพย์และทำให้เกิดความอับอายผู้คน
                                 

 สอบสวน น.ส.ทัตชญา ทราบว่า รู้จักชอบพอคบหากับนายณัฐพัชร์ หรือ บาส แฟนหนุ่มมานานกว่า 1 ปีแล้ว ต่อมานายณัฐพัชร์ มาหานางภาวนาซึ่งเป็นแม่ของตน พร้อมกับเอ่ยปากขอแต่งงานกับตน โดยเสนอให้สินสอดเป็นเงินสด 300,000 บาท ทองรูปพรรณหนัก 5 บาท ซึ่งแม่ตนก็ถามตนว่าตกลงแต่งงานกับนายณัฐพัชร์หรือไม่ ด้วยความรักตนจึงตกลงที่จะแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากับนายณัฐพัชร์ และตกลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานกันวันที่ 12 พ.ค. โดยช่วงเช้าจัดให้มีพิธีสงฆ์พร้อมรดน้ำสังข์ที่บ้านเลขที่ 164/18 ม.3 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางภาวนาซึ่งเป็นแม่ ส่วนตอนเย็นจัดให้มีงานกินเลี้ยงกันที่สวนอาหารบัวหลวง ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี โดยนายณัฐพัชร์แฟนหนุ่ม ขอให้นางภาวนาออกเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานไปก่อน และจะใช้คืนในภายหลัง โดยนางภาวนาจ่ายเงินไปแล้ว 240,000 บาท

 น.ส.ทัตชญา ให้การต่อว่า ในวันนี้ซึ่งเป็นวันงาน ตนตื่นนอนตั้งแต่เวลา 05.00 น. และให้ช่างแต่งตัวเจ้าสาวเสร็จในเวลาประมาณ 06.00 น. จากนั้นก็เฝ้ารอนายณัฐพัชร์ ว่าที่เจ้าบ่าวจนถึงเวลาประมาณ 07.30 น. นายณัฐพัชร์ก็ยังไม่ปรากฏตัว ติดต่อทางโทรศัพท์มือถือก็ปิดเครื่อง ตนพร้อมด้วยนางภาวนาผู้เป็นแม่และญาติพร้อมเพื่อนบ้านอีกกว่า 10 คน จึงนั่งรถไปตามนายณัฐพัชร์ที่บ้าน แต่ก็ไม่พบ แต่พบกับพ่อแม่ของนายณัฐพัชร์ ซึ่งจากการสอบถามพ่อแม่ของนายณัฐพัชร์ ได้รับคำตอบว่า ไม่รู้เหมือนกันว่านายณัฐพัชร์ไปไหน และที่สำคัญนายณัฐพัชร์ไม่เคยบอกพ่อกับแม่เลยว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของนายณัฐพัชร์กับตนแต่อย่างใด

 เมื่อตนทราบเรื่องจึงมั่นใจว่าคงจะถูกนายณัฐพัชร์หลอกเรื่องที่จะแต่งงานด้วยเสียแล้ว จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ช่วยติดตามหาตัวนายณัฐพัชร์ ให้มาตกลงพูดคุยกันด้วยว่าจะเอาอย่างไร เพราะนอกจากนายณัฐพัชร์จะทำให้แม่ของตนเสียเงินค่าจัดงานแต่งงานไป 2 แสนกว่าบาทแล้ว ยังทำให้เกิดความอับอายเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะได้แจกการ์ดงานแต่งให้แขกมีระดับหลาย 100 ใบด้วยกัน

 หลังทราบเรื่องราว ร.ต.ท.ศุภชัย ดีมงคล ร้อยเวรฯ ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ น.ส.ทัตชญา ว่าที่เจ้าสาวหม้ายขันหมากและนางภาวนาผู้เป็นแม่ทราบว่า จะออกหมายเรียกนายณัฐพัชร์ หรือ บาส หนุ่มแบงก์ ธกส. มาพูดคุยตกลงกันต่อไป ซึ่ง น.ส.ทัตชญา และนางภาวนาพร้อมด้วยญาติก็พอใจ จากนั้นจึงเดินลงจากโรงพัก สภ.เมืองลพบุรีไปด้วยความเศร้า

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ตะลุมบอน!! คนงานก่อสร้างไทย-พม่ากว่า 400 ยกพวกฟันกันเละ-จุดไฟเผาแคมป์ ตร.ตรึงกำลัง


 เวลา 12.20 น. วันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.อ.ธนาวุฒิ เคหะเจริญ ผกก.สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุคนงานก่อสร้างของคนไทย-พม่า บริษัท ชิโน-ไทย เอนจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่กำลังก่อสร้างสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) บริเวณแคมป์พักคนงาน ใกล้หมู่บ้านเขาวง หมู่ที่ 5 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง กว่า 400 คน ยกพวกตีกันโดยมีอาวุธทั้งท่อนเหล็ก ท่อนไม้และอาวุธมีดเข้าทำร้ายกันและคนงานชาวพม่าเข้าไปเผาแคมป์พักคนงานชาวไทย

 หลังรับแจ้งจึงได้ประสานงานไปยังรถดับเพลิงจากอบต.หนองน้ำแดง จาก อบต.ปากช่อง แล้วรีบรุดออกไปพร้อมด้วย พ.ต.ท.หริพงษ์ แววโคกสูง พนักงานสอบสวนฯ พ.ต.ต.สุเทพ รามสันเที๊ยะ สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างวิชชาธรรมปากช่อง กว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบเพื่อระงับเหตุ จากการตรวจสอบบริเวณเนื้อที่กำลังก่อสร้างเทเสาทำตอม่อ ในบริเวณกว่า 500 ไร่ ถัดเข้าไปเป็นที่พักแคมป์คนงานชาวไทย-พม่า ปลูกเป็นแถวมีห้องพัก 2 ชั้นยาวกว่า 15 แถว และมีรั้วสังกะสีกั้นแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งมีถนนกั้นกลาง พบคนงานกว่า 500 คน กระจายตามด้านหน้าทางเข้าแคมป์พัก และพบคนงานชาวพม่าแคมป์ฝั่งด้านซ้าย กำลังยืนถือท่อนเหล็กและรวมกลุ่มกันด้านหน้าที่พักเป็นจำนวนมาก

 และพบว่าบริเวณห้องพักของคนงานชาวไทยห้องหมายเลข 421-422 ชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องพักของ นางสุพัชตา ศรีสุวรรณ อายุ 38 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.โนนคูน จ.ศรีสะเกษ ถูกคนงานชาวพม่าบุกเข้าไปเผา จนทำให้ที่นอนหมอนมุ้ง เสื้อผ้าถูกไฟไหม้เสียหายหมด และยังพบว่ามีคนงานชาวพม่า 1 คน ถูกอาวุธมีดฟันเข้าบริเวณหลังได้รับบาดเจ็บ รีบนำส่ง ร.พ.ปากช่องนานา และในบริเวณแคมป์พักยังมีการชุนมุลกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีเจ้าหน้าที่เซฟตี้ หัวหน้าคนงานทั้ง 2 ฝ่าย และล่ามชาวไทยพม่า กำลังเจรจาระงับเหตุ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเข้าไปคุมเชิงดูแล


                                  
 จากการสอบถามนายนัฐพล ยะโสธร อายุ 46 ปี หัวหน้ารักษาความปลอดภัย (เซฟตี้) ที่ดูแลคนงานทั้ง 2 ฝ่าย ทราบว่า คนงานทั้งหมดที่พักอยู่เป็นชาวไทยประมาณ 300 คน ชาวพม่าประมาณ 200 คน รวมแล้วประมาณ 500 กว่าคน ของ บริษัท ชิโน-ไทยฯ จำกัด (มหาชน) มาทำการก่อสร้างที่พักและสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยก่อนเกิดเหตุ มีคนงานส่วนหนึ่งหยุดในวันอาทิตย์ ทราบว่ามีคนงานชาวพม่า ที่หยุดงาน รวมกลุ่มกันกินเหล้าและเปิดเพลงเสียงดัง จนทำให้คนงานชาวพม่าในแคมป์บริเวณเดียวกันไม่พอใจ และเกิดทะเลาะกัน ล่ามชาวพม่า จึงได้เดินออกจากแคมป์ข้ามถนนมาตามนายแสน คนงานไทยนำเพื่อนไปช่วยระงับด้วย หลังเข้าไปไม่นานก็เกิดการตะลุมบอนกันขึ้นระหว่างคนงานไทยและคนงานพม่า และคนงานพม่าถูกคนไทยใช้อาวุธมีดฟัน จนได้รับบาดเจ็บ และทำให้คนงานชาวพม่าไม่พอใจ นำพวกจำนวนมากบุกเผาห้องพักและยกพวกตีกัน เป็นช่วงพักเที่ยงของคนงานพอดี
                                   
 ส่วนผู้บาดเจ็บชาวพม่า หลังจากนำส่ง ร.พ.ปากช่องนานา ไม่ยอมให้แพทย์รักษาและทำแผล โวยวายและหนีออกจาก ร.พ.ไป โดยขณะนี้สถานการณ์ในบริเวณแคมป์คนงาน ก็ยังตรึงเครียดโดยมีคนงานชาวพม่าส่วนหนึ่งยังไม่ยอมโดยรวมกลุ่มเตรียมอาวุธท่อนเหล็กอยู่ศาลาหน้าแคมป์พักพ.ต.อ.ธนาวุฒิ เจึงได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังส่วนหนึ่งไว้จนกว่า ให้เจ้าหน้าที่ของบริษัท ก่อสร้าง ชิโน-ไทย ที่ดูแลคนงาน เจรจากับคนงานเสร็จสิ้นก่อน พร้อมแนะนำให้คนงานไทยที่ถูกเผาสิ่งของและทรัพยสิน แจ้งความประสงค์หากต้องการเรียกร้อง ส่วนความเสียหายทรัพย์สินของคนงานประมาณ 10,000  บาท 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ชมพู่ จัดเต็มแบรนด์เนม ชาตินี้ไม่ยอมตกรันเวย์

ชมพู่ จัดเต็มแบรนด์เนม ชาตินี้ไม่ยอมตกรันเวย์ 
 ก็ไม่รู้ว่าผิวกายขาวๆ เนียนๆ ของนางเอกสวย ชมพู่ อารยา ยังจะใส่เสื้อผ้าตามตลาดนัดไก่กาอาราเล่ได้อยู่หรือเปล่า เพราะที่เห็นๆ อยู่ทุกวันนี้ เสื้อผ้าของเธอทุกชุดล้วนแต่เป็นแบรนด์เนมแทบทั้งสิ้น ชุดหนึ่งสนนราคาอยู่ที่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักแสนต้นๆ บางชุดก็อาจจะอยู่ที่หลักล้าน ถ้าคุณเธอจำเป็นจะต้องออกไปประชันโฉมตามงานใหญ่ๆ
        ซึ่งแต่ละชุดก็ต้องมีที่มาที่ไปว่าเคยอยู่บนแคตวอล์คระดับโลกมาแล้ว แม้ว่าจะมีกระแสข่าวลือ แรงๆ หนาหูว่าวงการแฟชั่นไทยไม่ค่อยจะปลื้มเธอสักเท่าไหร่ ที่ทำตัวโอเว่อร์เกินหน้าเกินตาชาวบ้าน แต่ยังไงความเว่อร์ของเธอก็มาพร้อมกับความเป๊ะทุกครั้ง เพราะทุกชุดที่เธอเลือกสวมใส่ ไม่เคยมีชุดไหนที่เธอพลาดและดูขัดลูกหูลูกตา จะมีก็แต่พวกที่อิจฉาริษยาเธอเท่านั้นล่ะ ที่คอยแหวะ!!! ใส่ตามหลัง

ที่มา   http://news.sanook.com