วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ตร.ยืดอกรับผิด กรณี "จราจรไถส่วย" บิ๊กอู๋สั่งจัดการเด็ดขาด





ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวีดีโอความยาว 4.03 นาที หัวข้อเรื่อง “ตำรวจหากินประชาชน!!!(บางคน)” เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียชื่อดังเฟสบุ๊คและยูทูบ โดยเป็นภาพชายแต่งกลายคล้ายตำรวจ  2 นาย คนหนึ่งทำหน้าที่เรียกรถเก๋งและจยย.หลายคันให้จอดริมถนน จากนั้นอีกคนแต่งกายคล้ายตำรวจสวมหมวกเลขรหัส 6636 บางนา จะเดินเข้าไปพูดคุยกับคนขับและรับเงินที่คนขับส่งให้ บางรายก็คืนเงินทอนให้ด้วย ซึ่งผู้ถ่ายคลิปแอบถ่ายพฤติกรรมฉาวจากมุมสูง ระบุข้อความอธิบายด้วยว่า "ถ่ายจากสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง วันที่ 5 พ.ค." จนสร้างความฮือฮาไปทั่วสังคมออนไลน์ตามข่าวนั้น

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะรับผิดชอบงานด้านกฎหมายและสอบสวน รักษาการแทนผบก.น.5 เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ศุภชัย ชัยสุวรรณ รองผกก.จร.สน.บางนาแล้วว่า นายตำรวจที่ปรากฏในคลิปที่มีการเผยแพร่ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนา ชื่อด.ต.นิพนธ์ โศรกหาย ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางนา และได้เรียกตัวมาสอบถามแล้ว ด.ต.นิพนธ์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง ขณะนี้ได้สั่งการให้บก.น.5 ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาพิจารณาข้อบกพร่องกรณีการกระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยมี พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา รองผบก.น. 5 เป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้มีความเห็นให้สั่งพักราชการจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น เนื่องจากเป็นการทำผิดที่เสียหายร้ายแรง คาดว่าจะทราบผลการสอบสวนได้ภายใน 3 วันนี้
 พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า อยากให้ผู้ที่ถูก ด.ต.นิพนธ์ เรียกรับผลประโยชน์ เข้ามาให้การเป็นพยาน เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ  แต่ถ้าหากผู้เสียหายไม่มาแจ้งความให้ดำเนินคดีหรือมาให้ปากคำ ทางตำรวจก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้เท่าที่มีอยู่ แต่น้ำหนักอาจจะไม่หนักแน่นเท่ากับการที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ จากการสอบถามด.ต.นิพนธ์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแค่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง ส่วนนายตำรวจอีกคนที่ปรากฏอยู่ในคลิปด้วยนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา อย่างไรก็ตามจะขอตรวจสอบย้อนหลังไปด้วยว่า ก่อนหน้านี้ด.ต.นิพนธ์ เคยมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์แบบนี้หรือไม่ แต่เท่าที่สอบถามรองผกก.จร.สน.บางนา เบื้องต้นทราบว่า ยังไม่เคยมีประวัติในลักษณะนี้มาก่อน
 เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ทางบช.น.เคยมีการคาดโทษทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกรับสินบน และประชาชนที่ให้เงินกับตำรวจด้วย พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ในเรื่องของคดีการเรียกรับผลประโยชน์นั้น หากมีการดำเนินคดีกับผู้ให้ด้วย ก็จะไม่มีใครมาผู้เสียหายหรือเป็นพยานให้กับพนักงานสอบสวน ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการเรียกรับผลประโยชน์ ต้องมีทั้งสองฝ่ายก็จริง แต่กฎหมายต้องการที่จะลงโทษเจ้าพนักงานที่ไปเรียกรับ ผู้ที่ให้ก็ถือว่ามีความผิด แต่ในโทษทัณฑ์ที่ร้ายแรงกว่าคือความเป็นเจ้าหนักงานและอาศัยเครื่องแบบแสวงหาผลประโยชน์ ดังนั้นทางด้านคุณธรรมก็ต้องให้ความคุ้มครองกับผู้ที่ให้ก่อน เพื่อกันไว้เป็นพยาน ในการที่จะลงโทษผู้กระทำผิด
 “ส่วนเรื่องการตั้งด่านจราจรในบริเวณที่ปรากฏตามภาพนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยกับพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านจราจร ว่า บริเวณดังกล่าวสามารถตั้งด่านได้หรือไม่อย่างไร และในช่วงเวลาดังกล่าวมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะตำรวจที่แสวงหาผลประโยชน์หรือประพฤติตัวนอกลู่นอกทางก็มีวิธีช่องทางในการกระทำความผิดอยู่แล้ว เราเป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องกวดขัน ถ้าพบการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการ ส่วนการดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาโดยตรงของด.ต.นิพนธ์ นั้น ปกติทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ในการให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทางบช.น.เองก็ได้เรียกประชุมผกก.และรองผกก. ให้ควบคุมดูแลลูกน้องไม่ให้มีความประพฤติที่เสียหาย มีขึ้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว ใครบกพร่องก็พิจารณาเป็นรายๆไป” รองผบช.น. กล่าว
 วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปวิดีโอที่ ด.ต.นิพนธ์ โศรกหาย ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางนา เรียกรับเงินจากผู้ขับขี่รถยนต์ และ รถ จยย,บริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้ซ.ลาซาล ใต้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง เผยแพร่ในยูทูปว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร.ได้กำชับใหัดูแลเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะการกระทำผิดที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเทคโนโลยี ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นทางตำรวจนครบาล ได้ชี้แจงมาแล้ว และขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยแจ้งข้อมูลการกระทำผิดดังกล่าว ซึ่ง ตร.ยอมรับข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นอย่างลูกผู้ชาย พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องก็ต้องร่อนตระแกรงออกให้หมด ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือ ผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะได้ข้อเท็จจริง.

ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์ http://www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น