วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ญาติยืนยันเป็นศพ "เอกยุทธ" จริง - ตร.ชี้รัดคอฆ่า หวังปล้นเงิน 5 ล้าน

วันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่า เจ้าหน้าที่จะเริ่มขุดหาศพนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซต์เดอร์ ที่ป่าบ้านเขาจิงโจ้ ต.พนมวัง อ.เมือง จ.พัทลุง ตั้งแต่เวลา 09.00น.วันนี้
"พื้นที่เกิดฝนตกหนัก หากเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการจะเป็นการทำลายพยานหลักฐาน จะเริ่มปฏิบัติการขุดค้นหาร่างนายเอกยุทธ ตามคำให้การของผู้ต้องหา ในเวลา 09.00น." พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ นายชวลิต วุ่นชุม ชาวพัทลุง ที่นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ "บอล" คนขับรถของนายเอกยุทธ ซัดทอดว่าเป็นหนึ่งในสองผู้ต้องหาร่วมกันลงมือฆ่านายเอกยุทธ ยืนยันว่า ไม่ได้ลงมือฆ่านายเอกยุทธ แต่ทำหน้าที่นำศพนายเอกยุทธไปฝัง 

ก่อนหน้านี้ เวลา 23.30  น. วันที่  11 มิ.ย. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรพัทลุง  พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา  รอง ผบช.น. และ  พล.ต.ท.พิสิฎฐ์   ผบช.ภ.9  ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าในคดีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร  ว่าในคืนนี้ตำรวจต้องยุติการค้นหาพยานหลักฐานและการค้นหาศพ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ตามคำกล่าวอ้างของนายสันติภาพ  เพ็งด้วง   คนขับรถที่ให้การกับตำรวจว่าได้นำศพไปฟังไว้ข้างเขาจิงโจ้  ในท้องที่  อ.เมืองพัทลุง  เนื่องจากว่าเกิดฝนตกหนัก  อาจจะส่งผลให้พยานหลักฐานที่สำคัญถูกทำลายได้   ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะได้ระดม จนท.ตำรวจ  และกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง  เข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมตามเส้นทางที่นายสันติภาพฯได้บอกกับตำรวจในขั้นต้น

พล.ต.ต.ปริญญา   กล่าวอีกว่า   การให้ปากคำของนายสันติภาพ   บางอย่างวกไปเวียนมายังสรุปเนื้อหาที่แน่นอนไม่ได้  ซึ่ง  ตร.จะได้สอบปากคำนายสันติภาพอีกครั้ง ส่วนรถของนายเอกยุทธ  ตร.ไม่พบคราบเลือดแต่อย่างใด   ส่วนการควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมมือกับนายสันติภาพนั้น   ตร.จะเชิญตัวมาสอบปากคำทุกคนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว   รวมทั้ง จ.ส.อ.อิทธิพล   เพ็งด้วง  บิดาของนายสันติภาพ ซึ่งเป็นทหารสังกัด  ช.401   ค่ายอภัยบริรักษ์   ต.ชุมพล   อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง   รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องกับคดีทุกคน

ด้านพล.ต.ท.พิสิฎฐ์   พิสุทธิศักดิ์   ผบช.ภ.9  กล่าวว่า  สำหรับนายชวลิต  วุ่นชุม อายุ  25   ปี   อยู่บ้านเลขที่ 213   ม.1   ต.แพรกหา  อ.ควนขนุน   จ.พัทลุง   ซึ่งเข้าร่วมก่อคดีกับนายสันติภาพฯโดยทำหน้าที่เป็นคนขุดหลุมฝังศพนายเอกยุทธฯซึ่งถูกกำลัง  ตร.ภาค  9   และ  ตร.สภ.กันตัง  จ.ตรัง รวบตัวได้นั้น  ขณะนี้นายชวลิตได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ธูปกระจ่างผบช.น. พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบช.ภ. 9 ได้คุมตัวนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 25 ปี คนขับรถผู้ต้องหาฆ่านายเอกยุทธ ไปค้นหาศพตามจุดต่างๆที่เคยให้การไว้ ปรากฏว่า นายสันติภาพกลับให้การวกวน อ้างว่าจำตำแหน่งไม่ได้ ไม่เหมือนช่วงที่ยังถูกคุมตัวอยู่ที่กทม. ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขับรถกลับไปกลับมานานกว่า 1 ชม. กระทั่งตัดสินใจพาตัวกลับไปที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  เพื่อสอบข้อมูลอีกครั้ง

 ล่าสุด มีรายงานว่า ผกก.ตชด. 434 ที่นำกำลังส่วนหนึ่งมาร่วมค้นหาศพ แจ้งกลับมาที่กองบัญชาการว่า ได้พบหลุมที่เชื่อว่าเป็นจุดฝังศพนายเอกยุทธแล้ว พบว่าเป็นหลุมขนาดใหญ่มีร่องรอยการฝังกลบอยู่ แต่ไม่แนบเนียนมากนัก ซึ่งมีตำแหน่งอยู่บริเวณเขาจิงโจ้ หมู่ 10 บ้านเขาจิงโจ้ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง โดยหลุมศพดังกล่าวเป็นจุดที่ นายชวลิต วุ่นชุม รับสารภาพว่าร่วมฝังศพนายเอกยุทธเคยชี้ตำแหน่งบอกไว้ก่อนหน้านี้ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีทั้งหมด กำลังเร่งเดินทางไปตรวจสอบหลุมศพดังกล่าวอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อ้างว่า หลังจากฟังแถลงข่าวของ บช.น. ว่า นายสันติภาพ หรือ บอล คนขับรถของนายเอกยุทธ ให้การว่า นายเอกยุทธ หนีไปประเทศพม่า ก็เดินทางไปที่บช.น.ทันที เพื่อคุยกับผู้ต้องหา เพราะในส่วนตัวก็มีหลักฐานว่าที่แถลงกันนั้นไม่ใช่เรื่องจริง จึงได้สอบถามใหม่จนรับว่าลงมือฆ่า แต่ก็ยังมีการโกหกหลายประเด็น รวมทั้งวิธีการฆ่า จุดที่ฝังศพ จนกระทั่งตำรวจสามารถรวบเพื่อนที่ร่วมลงมือได้ แล้วเค้นสอบใหม่ จึงยอมบอกจุดที่ฝังศพ แต่เมื่อคืนที่ จ.พัทลุง ฝนตกหนัก จึงขุดศพไม่ได้ จึงเลื่อนมาเป็นช่วงสายวันนี้ ก็น่าจะมีความชัดเจนหากเจอศพ

นายสุวัตร ระบุว่า ในเรื่องการทำงานของตำรวจ ไม่มีความคลางแคลงใจแล้ว หลัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กับทีมพนักงานสอบสวน ร่วมฟังการสอบสวน และมีความกระจ่างจนปราศจากข้อสงสัย โดย นายสันติภาพ มีประวัติอาชญากรโชกโชน ต้องไล่บี้กว่าจะยอมรับ และการที่มาเป็นคนขับรถก็มีการวางแผนเป็นอย่างดี พบประวัติเคยเป็นลูกน้อง เสธ.คนดัง เอี่ยวคดีอุ้มฆ่า ก่อนมาแฝงตัวถึง 7 เดือน ไม่เชื่อว่าเป็นการลงมือเพื่อชิงทรัพย์ เพราะเอาตัวไปก่อนแล้วมาเอาเงินทีหลัง รวมทั้งยืนยันว่า ไม่ใช่ประเด็นเรื่องแฟน นายสันติภาพ โดยเชื่อว่า มีการวางแผนเอาชีวิตมาตั้งแต่ต้น เรื่องเงินเป็นของแถม หรือเบี่ยงเบนประเด็น 
 
ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงและสั่งให้เร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน ซึ่ง บช.น. พยายามคลี่คลายอย่างเต็มที่ตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่ นายสุวัตร ทนายความของ นายเอกยุทธ ระบุว่า ลูกความของตนโดนอุ้มฆ่า โดยมีการวางแผนเป็นขบวนการใหญ่ และมีผู้บงการซึ่งเป็นบุคคลระดับใหญ่โตของบ้านเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น ตนเองไม่ได้กังวลใด ๆ เพราะเข้าใจที่ ทนายสุวัตรจะคิดและสันนิษฐานกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง เป็นสิทธิ์ของตัวเอง และพร้อมยืนยันว่า จะเร่งคลี่คลายคดีด้วยความยุติธรรม ปราศจากความสงสัยจากประชาชน 

 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ขุดหลุมศพที่นายชวลิต วุ่นชุม 1 ในทีมผู้ต้องหานำไปชี้จุดที่ริมบ่อปลาของนายน้อม เพชรสุวรรณ บริเวณตรงรอยต่อบ้านเขาจิงโจ้กับบ้านคลองกุด ม.8 ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง โดยขุดลงไปครึ่งเมตรก็พบศพนายเอกยุทธอยู่ในสภาพเปลือยกาย และเริ่มขึ้นอืด มีรอยฟกช้ำที่ใบหน้าและลำคอ โดยเจ้าหน้าที่เก็บดีเอ็นเอไปพิสูจน์เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง

 อย่างไรก็ตาม ญาติของนายเอกยุทธ ที่มาอยู่ในเหตุการณ์ยอมรับว่าเป็นศพของนายเอกยุทธ แต่ขอให้ส่งศพของนายเอกยุทธ ตรวจสอบทางนิติเวช อีกครั้งที่กทม. 

 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผบช.น. เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นญาติของนายเอกยุทธ ยืนยันว่าเป็นศพของนายเอกยุทธจริง เนื่องจากมีรูปพรรณสัณฐานและร่องรอยบริเวณใบหู ที่มีลักษณะเป็นรอยพับ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะส่งศพยังไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจพิสูจน์ลักษณะบุคคลที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตเชื่อว่าตรงกับคำให้การของคนร้ายก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าได้มีการรัดคอ เนื่องจากสภาพศพพบร่องรอยบริเวณลำคอมีลักษณะถูกรัดจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะต้องมีการสืบสวนขยายผล เนื่องจากจะต้องติดตามเงินซึ่งคาดว่ามีจำนวนมากกว่า 5 ล้านบาทของนายเอกยุทธกลับคืนมา ส่วนมูลเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ผู้ต้องหายังคงยืนยันว่ามาจากการประสงค์ต่อทรัพย์ โดยจะต้องสืบสวนว่ามีผู้บังการเบื้องหลังหรือไม่ต่อไป และจะมีการเชิญครอบครัวของนายเอกยุทธเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจอีกครั้ง

 วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีนายสันติภาพ เพ็งด้วง ผู้ต้องสงสัยในคดีการหายตัวไปของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร มีบิดาเป็นทหาร คือ จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง สังกัด ช.พัน 401 จังหวัดพัทลุงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องการข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการในทางคดี ทางหน่วยต้นสังกัดจึงอำนวยความสะดวกให้ทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางรองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ประสานมายังหน่วย ช.พัน 401 มาเพื่อให้ตรวจสอบหายานพาหนะรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสีดำว่า ได้เข้ามาภายในค่ายหรือไม่ ทางหน่วยได้ตรวจสอบและรายงานกลับว่า ไม่พบหรือปรากฏรถตู้ยี่ห้อโฟล์คคันดังกล่าวภายในหน่วย จากนั้นทางหน่วยจึงได้เรียก จ.ส.อ.อิทธิพล มาสอบถามความเป็นมาเป็นไปในขั้นต้น โดยจ.ส.อ.อิทธิพล ได้ให้ข้อมูลว่าได้พูดคุยกับบุตรชายล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. แต่เป็นเพียงการพูดคุยกันตามปกติไม่ได้พูดถึงเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อความมั่นใจหน่วยยังได้จัดกำลังพลเข้าตรวจสอบพื้นที่รอบค่ายฯ รวมถึงบ้านพักของ จ.ส.อ.อิทธิพลฯ เพื่อหาสิ่งผิดปกติแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ 

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า จนกระทั่งวานนี้ (11 มิ.ย.) เวลาประมาณ 20.00 น. จ.ส.อ.อิทธิพลขอเข้าพบผู้บังคับบัญชา คือ ผบ.ช.พัน.401 เพื่อขอบอกเล่าข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่า เมื่อ 14.00 น. ของวันที่ 7 มิ.ย. นายสันติภาพได้โทร.มาเล่าว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว และได้นำเงินที่ได้มาไปฝากให้แม่ที่อยู่ใน กทม.ไว้ เพื่อให้นำไปฝากต่อไว้กับจ.ส.อ.อิทธพลที่จังหวัดพัทลุง จากนั้นจ.ส.อ.อิทธิพล จึงได้ไปรับเงินมาแล้วนำไปแอบซ่อนไว้ที่บ้านของบิดา และบ้านญาติที่จังหวัดสงขลา ทั้งนี้จากข้อมูลที่ได้รับจาก จ.ส.อ.อิทธิพลเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ให้ไว้กับหน่วยต้นสังกัด จะเท็จจริงหรือน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดคงต้องให้ทางพนักงานสอบสวน เป็นผู้ดำเนินการขั้นต่อไป หลังจากนี้ทางกองพลพัฒนาที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยบังคับบัญชาของ ช.พัน.401 หน่วยต้นสังกัดของจ.ส.อ.อิทธิพลจะประสานกับตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เพื่อนำตัว จ.ส.อ.อิทธิพล ไปให้ข้อมูลในวันนี้ (12 มิ.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น.ต่อไป

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น