วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

‘เคลลี่’ยื่นฟ้องพ่อ‘กรีน เอเอฟ’ แฟนสาว

เมื่อบ่ายวันที่ 4 พ.ค. ที่ ห้างเดอะ ไนน์ พระราม9 ได้มีการถ่ายทอดรายการ 7สีคอนเสิร์ตพิเศษ รวมเด็ดละคร7 สี โดยวันนี้มีบรรดาสื่อมวลชนมาทำข่าวค่อนข้างเมากเนื่องจาก ‘กรีน’ อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล นางเอกสาวจากละครเรื่อง “มายาสีมุก” ที่กำลังมีประเด็นร้อนเนื่องจาก ‘เคลลี่ ธนะพัฒน์’ แฟนหนุ่มได้ยื่นฟ้องคุณพ่อของตนในข้อหาหมิ่ประมาท ซึ่งในวันนี้ ‘เคลลี่’ จะให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นข่าวที่เกิดขึ้น ภายหลังจากจบรายการแล้ว

 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศระหว่างการถ่ายทอดสดว่า ช่วงที่ ‘กรีน’ ร้องเพลงบนเวทีซึ่งเป็นการแสดงชุดสุดท้ายนั้น
‘เคลลี่’ ได้เซอร์ไพรส์เอาดอกไม้ขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับคุกเข่ามอบดอกไม้ให้กับนางเอกสาว ทำเอาแฟนๆที่มาดูการถ่ายทอดสดกรี๊ดลั่น นอกจากนี้ ‘เคลลี่’ ยังแสดงความหวานด้วยการเช็ดเหงื่อให้กับแฟนสาว

 หลังจากที่เสร็จการ ถ่ายทอดสดแล้ว ‘กรีน’ และ ‘เคลลี่’ พร้อมด้วย นายปฏิวัติ พิมาย ทนายความของนักแสดงหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงข่าวที่ออกมา โดย‘เคลลี่’ เผยถึงที่มาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า อย่างแรกเลยที่ตนอยากบอกทุกคนว่ากรณีนี้น้องกรีนถือเป็นคนกลาง ขอให้ตนเป็นฝ่ายตอบคำถามแล้วกัน ถือว่าเป็นเรื่องระหว่างบุคคล2คน อย่ามองในเรื่องของสถานะ สิ่งที่เป็นข่าวทางอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนได้อ่านมาขอให้ลืมมันไปเลยเพราะมัน ไม่เป็นความจริง ถ้าถามตนว่ามีหมายศาลจริงหรือเปล่านั้นมีจริงแต่นอกเหนือกจากนั้นข้อมูลที่ ลงตามอินเตอร์เน็ตไม่เป็นความจริงเลยวันนี้ตนจะขอพูดให้น้อยที่สุดสิ่งไหน ที่ตนสามารถตอบได้ก็จะตอบเพราะตนโปร่งใสอยู่แล้ว วันนี้ตนได้พาคุณปฏิวัติ พิมาย ทนายความของตนมาด้วย มีอะไรสอบถามได้

 ทางด้านนายปฏิวัติ พิมาย  ทนายความของ ‘เคลลี่’ ได้เผยว่า ทางคุณพ่อของกรีนได้ให้ทนายความส่งหนังสือมาให้คุณเคลลี่เพื่อข่มขู่อะไรบางอย่าง ทางคุณเคลลี่ก็ต้องมีทนายความเพื่อส่งหนังสือกลับไปเหมือนกัน ซึ่งตนได้ส่งหนังสือไปแล้วบอกทางนั้นไปแล้วให้หยุดการข่มขู่ซึ่งทางฝ่ายนั้นไม่หยุด  ตนก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

 ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงต้นตอปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างคุณพ่อของ‘กรีน’กับ ‘เคลลี่’ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ‘เคลลี่’ เผยว่า ตนอยากบอกว่าสิ่งที่ตนทำไปเพื่อปกป้องสิทธิของตน เพราะที่ผ่านมาตนได้ทำการเจรจากับทางฝ่ายโน้นมาแล้ว

 “จริงๆแล้ว เหตุการณ์นี้ผ่านมาประมาณ10เดือนแล้วนะครับ ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาผมไม่ได้ พูดอะไรเพราะถือว่าเป็นเรื่องภายในเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอามาพูด ผมคิดว่าจะไปเคลียร์และตกลงกันโดยดี สำหรับต้นตอและสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมาจริงๆแล้วมันมีรายละเอียด เยอะมาก ต้องรอหลังจากวันที่ 20 พ.ค.ก่อนครับ ตัวผมเองไม่ได้ลึกซึ้งทางด้านกฎหมายและอยากจะบอกว่าน้องกรีนบรรลุนิติภาวะ แล้ว แต่พอมีจดหมายจากทนายความของทางฝ่ายโน้นมาถึงผมมันก็จะมีข้อที่ไม่จริงบ้าง หรือเรื่องของกฎหมายมาข่มขู่หรือบีบบังคับผม เราก็ต้องปรึกษาทางทนายความเหมือนกัน”

 นายปฏิวัติ ทนายความของนักแสดงหนุ่มเผยว่า ตอนนี้คงยังพูดอะไรมากไม่ได้ รอให้วันที่20 พ.ค.ที่ไปขึ้นศาลก่อนดีกว่า ที่ผ่านมาทางฝ่ายนั้นมีหนังสือมาและเขาจะดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งทางคุณเคลลี่ก็ต้องป้องกันสิทธิ์ตามกฎหมายไว้ ทางคุณเคลลี่มาปรึกษาตนและตนก็ได้มีหนังสือไปยังฝ่ายโน้น ตนก็ได้โทรไปคุยกับทางทนายความฝ่ายโน้นซึ่งทางทนายความก็ไม่ยอมหยุด ทางคุณเคลลี่ก็ต้องไปดำเนินการที่ศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของเขา

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าที่ทางคุณพ่อของ‘กรีน’ส่งหนังสือมาหา ‘เคลลี่’ใช่เรื่องที่ไม่อยากให้ทั้งคู่คบกันหรือเปล่า นายปฏิวัติ ทนายความของนักแสดงหนุ่มเผยว่า ตรงนี้ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน

 ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสาเหตุของความบาดหมางระหว่าง ‘เคลลี่’ กับ พ่อของ ‘กรีน’ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ‘เคลลี่’ เผยว่า ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ตนอยากจะบอกว่าฝ่ายตนมีหลักฐาน

 “ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหรอกครับ ตัวผมเองลำบากใจ น้องกรีนลำบากใจมีความทุกข์ เสียใจ ทำให้กระทบกับการทำงานและการเรียนของน้อง เขาก็หมดกำลังใจ เราก็ต้องอยู่เคียงข้างเขา ตัวผมเองก็นอนไม่หลับเพราะทุกข์ กรีนก็อยู่เคียงข้างผมตลอดที่เกิดรื่องมา ผมอยากจะขอร้องว่าอย่าเพิ่งไปตัดสิน อย่าเพิ่งวิจารณ์ อยากให้ทุกคนรอรับข้อมูลให้ครบก่อน น้องกรีนเป็นคนกลางก็ลำบากใจพอสมควร ผมก็หนักใจไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ที่มาวันนี้ก็อยากบอกกล่าวทุกคนว่ามันเป็นเรื่องระหว่างผมกับทางฝ่ายโน้น ไม่เกี่ยวกับน้องกรีน ถ้ามีอะไรก็ถามผมกับทนายความของผมได้ครับ”

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่‘เคลลี่’ยื่นฟ้องคุณพ่อของ ‘กรีน’ ได้มีการพูดคุยกันก่อนหรือเปล่า นายปฏิวัติ ทนายความได้เผยว่า เคยมีการคุยกันแล้ว แต่ทางฝ่ายโน้นไม่ยอมหยุด ทางฝ่ายโน้นมีหนังสือมาให้คุณเคลลี่เกือบ10เดือนแล้ว เขามีหนังสือมาหลายฉบับ ทางคุณเคลลี่รับไว้และไม่ได้โต้ตอบอะไร ล่าสุดตนได้ตอบไปยังทนายความของฝ่ายโน้น แต่ทางฝ่ายโน้นก็ไม่ยอมหยุด คุณเคลลี่มาปรึกษาตน ตนก็เลยบอกว่าดำเนินการทางศาลเลยดีกว่าเรื่องจะได้ยุติเพราะทุกอย่างมันไม่ใช่ความจริง เพราะจดหมายที่ออกมามันเหมือนเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของคุณเคลลี่ ต่อว่าต่างๆนานาแต่ในเชิงไหนตนขอให้เป็นวันที่20พ.ค.ขึ้นศาลดีกว่า เขาส่งมาข่มขู่ว่าจะฟ้องหลายฉบับ ซึ่งก็มีการคุยกันหลายครั้งจนครั้งสุดท้ายส่งจดหมายไปให้ทนายความของฝ่ายนั้นก็ไม่หยุด ก็ต้องมีการฟ้องร้องกันในข้อหาหมิ่นประมาท ขึ้นศาลแขวงพระนครเหนือ เวลา 09.00 น. วันที่ 20 พ.ค.

 ‘เคลลี่’ เผยต่อว่า จริงๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานี้เป็นวลา10 เดือนแล้ว ถ้าถามกลัวว่าเรื่องจะยืดเยื้อหรือเปล่านั้น ตนไม่กลัว ตนถือว่าเป็นผู้ใหญ่กันแล้วน่าจะไปคุยและตกลงเจรจากันได้

 อย่างที่ ผมบอกมันมีเหตุผลว่าทำไมเรื่องไปถึงศาลเพราะผมได้รับจดหมายมาจากทนายความ ฝ่ายโน้นและมีเรื่องกฎหมายมาเกี่ยวข้องผมไม่ได้เรียนกฎหมายมาและไม่ใช่ทนาย ความ ผมจำเป็นต้องปรึกษาทนายความและผมพูดไว้เลยว่าสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้เกี่ยว ข้องกับทรัพย์สินเงินทอง ผมต้องการให้เขาหยุดครับ ขอร้องให้เขาหยุดข่มขู่และต้องการให้เขาขอโทษ ซึ่งทางฝ่ายนั้นมีจดหมายไปถึงทางช่อง7 และบริษัทอื่นๆที่ผมเคยร่วมงานด้วย สิ่งเดียวที่ผมต้องการจากเขาคือหยุดได้ไหมครับ คุยกันดีๆก็ได้ทำไมต้องมีเรื่องกฎหมายและต้องมีจดหมายข่มขู่ ผมก็รู้สึกเครียด ถ้าเขาหยุดและจบและจะขอโทษเราในรูปแบบไหนก็ได้ ผมพร้อมจะยกฟ้องคดีเลยครับ แค่นี้เลยครับผมก็พร้อมที่จะจบ จริงเรื่องขอโทษคืออันดับรองด้วยซ้ำ ผมต้องการให้เขาหยุดครับ

 ผมอยู่ในวงการบันเทิงมา10กว่าปีแล้ว กว่าจะสร้างชื่อเสียง ผลงานออกมาไม่ใช่เรื่องง่าย ผมไม่เคยมีเรื่องเสียหายและวันหนึ่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาซึ่งมีเรื่องกฏหมาย ผมคิดว่าถ้าผมไม่ปกป้องสิทธิของตนเองก็คงไม่จบ เพราะทางฝ่ายนั้นก็ยืนยันว่าจะไม่จบ แต่ถ้าผมมาปกป้องสิทธิของตนเองก็ต้องเอาชื่อเสียงที่ผมสร้างมา มาเสี่ยงกับความเสียหายครั้งนี้ก็เท่ากับเสีย แต่ผมเชื่อในความยุติธรรม,เชื่อในความดี,เชื่อในสิ่งที่ถูกต้อง ผมเชื่อในพระเจ้าและผมเชื่อในความรัก ผมถึงต้องทำแบบนี้ครับ

 ผู้สื่อข่าวสอบถาม ‘กรีน’ ในฐานะของคนกลางได้คุยกับคุณพ่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือยัง ‘กรีน’ เผยว่า ตนยังไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณพ่อเลย เพราะตนทำงานและเรียนอย่างเดียว ตนยอมรับว่าลำบากใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก

 “กรีนอยากให้ทุกคนให้โอกาสกันและกันมากกว่า คือเรารักกันอยู่แล้วแต่อาจจะมีการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน อยากให้ลองให้โอกาสกันและกัน หันมาคุยกันกรีนว่าน่าจะดีกว่า กรีนขอร้องเลยว่าอย่าทำแบบนี้ หยุดที่จะทำแบบนี้เถอะอย่างที่พี่เคลลี่บอก เราไม่ได้เข้าข้างใครฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แต่อยากให้โอกาสทั้งโอกาสกับพี่เคลลี่(น้ำเสียงเครือ) โอกาสในตัวกรีนและตัวเขาเองด้วย”

 ‘เคลลี่’ เสริมว่า จริงๆอย่างที่ตนต้องการให้เขาหยุดและต้องการคุยกันเฉยๆ ถ้าถามว่าเป็นเรื่องใหญ่หรือเปล่าก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ลำบากใจ แต่มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่สองคนมานั่งคุยกันและสามารถตกลงกันได้ มันไม่น่าจะเป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรงที่ทั้งสองฝ่ายจะมาคุยกันและตกลงกันได้ มันไม่น่าจะเป็นอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรง

 “ผมยืนยันคือต้องการให้เขาหยุด และสิ่งที่สองคือต้องการให้เขาขอโทษและชี้แจงไปถึงแต่ละฝ่ายที่เขาส่งจดหมายไป เพราะไม่รู้ว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง บางคนอาจจะไม่รู้จักผมและไม่รู้ว่าเขาอ่านจดหมายแล้วจะคิดอย่างไรกับผม ผมต้องปกป้องสิทธิของเราด้วย”

  ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าในส่วนความสัมพันธ์ทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ถ้าเกิดว่าคุณพ่อของ ‘กรีน’บอกว่าจะหยุดแต่ขอให้ทั้งคู่เลิกกัน ‘เคลลี่’ เผยว่า เรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับกรีนมาแล้วว่ามันมีทางออกคือ ต้องเลิกกัน

 “อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าคนเราสองคนกว่าจะมาเจอกัน รู้จักกันและมารักกันได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย อยู่ดีๆจะมาให้เลิกคบก็เป็นเรื่องที่ลำบาก การที่คนสองคนมาคบกันหรือเลิกกัน ผมว่ามันเป็นสิทธิของคนสองคน มันเป็นการตัดสินใจของสองคนนั้น ไม่ใช่ให้ใครมาบีบบังคับ ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้”

                                                ‘กรีน’ เผยว่า ตนขอให้เรื่องมันเกิดขึ้นก่อนแล้วถึงจะตอบ ตอนนี้มันยังไม่เกิดขึ้น ขอเอาเรื่องที่มันเป็นปัจจุบันดีกว่า

 “เรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้น กรีนยังไม่ได้คุยกับคุณแม่เหมือนกันค่ะเพราะมัวแต่ทำงานตอนนี้มายาสีมุกก็ ถ่ายไปออกอากาศไปก็แทบไม่มีเวลาว่างคุยกับใครเลยรู้ข่าวนี้จากทางเออาร์ของ ทรู แฟนเทเชีย ด้วยซ้ำถึงได้ตกกใจไม่ได้รู้มาจากทางครอบครัว ตัวกรีนอยากให้ปัญหาต่างๆมันจบเลยแต่คิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ อยากให้มันจบลงด้วยดีทุกฝ่าย ไม่ยืดเยื้อไปมากกว่านี้อยากให้คลี่คลายให้ได้

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าวันนี้ ‘กรีน’ ออกมาให้สัมภาษณ์กลัวหรือเปล่าว่าทางคุณพ่อจะไม่พอใจ นางเอกสาวเผยว่า ถึงตนให้สัมภาษณ์หรือไม่ให้สัมภาษณ์ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อข่าวออกมาแบบนี้คนที่อยู่ใกล้ชิดนักข่าวมากที่สุดก็คือตนและพี่เคลลี่ที่จะสามารถออกมาได้เท่านั้น

 “กรีนรักทั้งคู่(เสียงเครือ)แต่ความจริงความถูกต้องก็ต้องอยู่บนความถูกต้อง ความสัมพันธ์ในครอบครัวของกรีนก็ยังรักกันเหมือนเดิมนะคะ ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วทำให้เราไม่รักกัน มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดกันแค่นั้นเอง อย่างที่บอกถ้าเราเปิดใจใหักันและกันให้โอกาสกันและกัน หันหน้ามาคุยกันก็คงจะดี นี่แหละคือปัญหาของคนไทยหลายคนที่เกิดขึ้นที่ไม่ยอมคุยกันค่ะ”

 ‘กรีน’ เผยต่อว่าที่ตนยังไม่ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ อาจจะเป็นเพราะว่าตนทำงานตลอดเวลา กลับดึก ตื่นเช้า มีภาระหลายอย่างต้องรับผิดชอบทำให้อาจลืมบางเรื่องไป ไม่ใช่ว่าตนไม่อยากคุยแต่ด้วยภาระที่ตนทำอยู่ตอนนี้ก็ค่อนข้างหนักอยู่

 “ส่วนที่คนจะมองว่ากรีนอกตัญญูตรงนี้กรีนคงห้ามคนไม่ให้มองเราแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะแต่กรีนพูดความจริงและกรีนรักครอบครัว รักพ่อและแม่แต่ทุกอย่างคือความจริงที่กรีนพูดค่ะ”

 ‘เคลลี่’ เสริมว่า ตนถึงอยากให้วันนี้เป็นเรื่องของตนกับฝ่ายโน้นดีกว่า อย่าเอาน้องกรีนมาเกี่ยวข้องเลย แค่นี้เขาก็ลำบากใจพอแล้ว เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา10เดือนแล้ว ถ้าตนไม่จนตรอกและมีทางอื่นตนขอเลือกทางนั้นไปแล้ว ตนคิดว่ามันไม่มีทางแล้ว ไม่รู้จะไปทางไหนแล้วมึนไปหมด

 “ผมว่าเรื่องนี้คงไม่เป็นอุปสรรคใน ความรักของเรา แต่ถามว่าเคยคุย เคยเครียดและทะเลาะกันเรื่องนี้ไหมเคยมี แต่คงไม่เป็นอุปสรรค ไม่อย่างนั้นทุกวันนี้ผมก็คงไม่มาเป็นกำลังใจให้เขาและเขาก็คงไม่เป็นกำลัง ใจให้ผม วันนี้ที่มาพูดไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนี้เลย ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่เมื่อมันมีข่าวยิ่งข่าวทางอินเตอร์เน็ตซึ่งเรา ไม่รู้ว่าแหล่งข่าวมาจากไหนก็อยากให้ทุกคนรับทราบตรงนี้แต่จะมีรายละเอียด มากกว่านี้หลังจากวันที่20 พ.ค.หลังจากขึ้นศาลแล้วครับ”

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าหลังจากเกิด เรื่องนี้แล้วในอนาคตเรื่องของการแต่งงานซึ่งวัฒนธรรมไทยค่อนข้างให้ความ สำคัญสถาบันครอบครัวมาก‘เคลลี่’เผยว่าตนเข้าใจ และตนหวังว่าการที่เราได้คุยกันแล้วคงไม่เป็นรอยร้าว มันเป็นความเข้าใจกันมากกว่า

                            
 “ผมรักคุณพ่อคุณแม่ผม ผมนับถือผู้ใหญ่และเห็นใจคนที่เป็นพ่อแม่ ผมเข้าใจแต่อย่างที่บอกตอนนี้คือการคุยและเข้าใจกัน จบเรื่องราวการเข้าใจผิดกัน เราโตๆกันแล้วเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ปรับความเข้าใจเข้าหากัน ถ้าทำได้เรื่องมันจบทันทีไม่มีต่อครับ”

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าหรืออาจจะพลิกหลังจากเหตุการณ์นี้แล้วครอบครัวของ‘กรีน’อยากให้ทั้งคู่แต่งงานกัน ‘เคลลี่’ เผยว่า เรื่องแต่งงานกันคงเป็นไปไม่ได้เพราะน้องกรีนยังเรียนอยู่ แต่อยากให้กรีนรู้ว่าตนอยู่เคียงข้างเขา เรื่องนี้ตนหวังว่าอยากให้ทุกคนมาปรับความเข้าใจกัน มาคุยกัน ตนหวังแค่ความเข้าใจกันและจบเรื่องความเข้าใจผิด




 ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น