เป็นอีก 1 คดีที่เกิดขึ้นจากความหึงหวง
เมื่อคุณนายปลัดอำเภอ เกิดระแวงสงสัยว่าสามีจะไปมีสัมพันธ์สวาทกับหญิงสาววัยรุ่น
จนทนไม่ได้ต้องออกคำสั่งตาย หวังว่าจะจบปัญหารัก 3 เส้า
แล้วครองคู่อยู่กับสามีโดยหมดเสี้ยนหนาม
แต่คดีอาชญากรรมย่อมไม่ไร้ร่องรอย
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานเด็ดจนสามารถแกะรอยไปถึงฆาตกร
ก่อนสอบสวนจนสามารถขยายผลไปถึงผู้จ้างวานได้
แก๊งโหดแก๊งนี้ ก็ต้องเดินคอตกเข้าคุกกันไปตามระเบียบ
ส่วนหลักฐานเด็ดชิ้นนี้ ใครจะเชื่อว่าเป็นเพียงแค่ใบเสร็จของห้างสรรพสินค้า ที่นำทางไปถึงทีมฆ่าได้สำเร็จ
สำหรับต้นเรื่องของคดี สืบเนื่องจากเมื่อเย็นวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ไพโรจน์ บุญยินดี พงส.เวร สภ.ด่านทัพตะโก อ.จอมบึง รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพหญิงสาวไม่ทราบชื่อถูกทำร้ายร่างกาย และนำศพไปทิ้งที่บริเวณป่าเชิงเขา หมู่ 7 ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
สภาพศพบริเวณใบหน้าที่โหนกแก้มและเบ้าตาซ้ายมีบาดแผลช้ำบวม
ขณะที่แพทย์นิติเวช ระบุหลังชันสูตรพลิกศพ ว่าพบบาดแผลถูกตีที่ศีรษะถึง 8 จุด คือด้านหลัง 4 จุด ด้านหน้า 3 จุด กรามขวา และสีข้างด้านขวา สภาพศพเริ่มเน่า เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน
เมื่อตรวจสอบทราบว่าหญิงสาวดังกล่าว คือ น.ส.ขวัญ ไม่มีนามสกุล อายุ 22 ปี เป็นชาวพม่า โดยมีบ้านอยู่ฝั่งพม่า แต่มาเช่าห้องที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ตรวจค้นทรัพย์ สินที่ติดตัวผู้ตายโดยละเอียดแล้วก็พบใบเสร็จรับเงินของห้างสรรพสินค้า เทสโก้โลตัส สาขากาญจนบุรี
เมื่อนำไปตรวจสอบกับทางห้าง จึงได้ข้อมูลว่าใบเสร็จดังกล่าวใช้บัตรสะสมคะแนนของห้างเทสโก้โลตัสที่มีชื่อ น.ส.วรัชยา มีศรี เป็นผู้ครอบครอง ซื้อสินค้า
พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนพบว่า น.ส.จารุนี เดินทางมาซื้อของที่ห้างเทสโก้ โลตัส นี้พร้อมชายคนหนึ่ง เมื่อนำภาพไปสอบกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ก็ได้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าวคือ ส.อ.บุญส่ง ทับถมยา ทหารนอกราชการ ซึ่งเป็นสามีของน.ส.วรัชยา
จึงตั้งเป้าไว้ว่าสามี-ภรรยาคู่นี้ต้องรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเหยื่อสาวเป็นแน่แท้
เมื่อนำกำลังไปควบคุมตัวทั้งคู่ที่บ้านพักเอามาสอบสวน เพียงไม่นานก็เปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าหญิงสาวชาวพม่าคนนี้เอง
โดยได้รับการว่าจ้างจาก น.ส. ภัทรารัตน์ ภรรยาปลัดอำเภอสังขละบุรี เป็นเงิน 1 แสนบาท
ส่วนสาเหตุเองก็มาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนหน้า ตาดี จนทำให้ น.ส. ภัทรารัตน์ สงสัยว่าจะแอบคบหากับสามี จึงตัดสินใจจ้างวานส.อ.บุญส่งมาลงมือ ซึ่งเป็นการจ้างผ่านนายศักรินทร์ ซึ่งเป็นคนรู้จักกันมาก่อน
ส.อ.บุญส่งยังสารภาพถึงขั้นตอนการลงมือฆ่าเหยื่อสาวว่า ร่วมกันวางแผนกับนายศักรินทร์ ที่รู้จักผู้ตาย ว่ามีคนอยากรู้จัก ก่อนนัดหมายไปเจอกันที่ห้างเทสโก้ โลตัส สาขากาญจนบุรี เมื่อมาถึง ส.อ.บุญส่ง ก็พาผู้ตายไปซื้อของ โดยใช้บัตรสะสมคะแนนของน.ส.วรัชยา ภรรยา
เมื่อซื้อของเสร็จ ก็ขับรถเก๋งมาสด้า สีเทาดำ ทะเบียน กฉ 4767 กาญจนบุรี ที่นายศักรินทร์ เป็นผู้เช่า พาเหยื่อสาวไปที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในจ.กาญจนบุรี แล้วทุบตีทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำศพใส่ท้ายรถแล้วเอาไปทิ้งในป่า ร่วมกับนายประยูร สะสมทรัพย์ ผู้ต้องหาอีกคนที่ยังหลบหนีอยู่ แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านพัก แต่ก็ถูกตำรวจติดตามจับกุมได้
แม้ทีมฆ่าจะสารภาพจนหมดเปลือกแล้ว แต่ภรรยาปลัดอำเภอ ที่เป็นผู้จ้างวาน ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ซึ่งคงเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องดำเนินการต่อไป
เพื่อให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย
ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น