วันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า จากที่ได้เห็นภาพช้างเผือกในป่าแก่งกระจาน คิดว่าช้างดังกล่าวน่าจะใช่ช้างเผือกจริง แต่อาจไม่ใช่ช้างเผือกที่มีลักษณะตรงตามคชลักษณ์ทั้งหมด เพราะขนหางมีสีดำ แต่ลูกช้างตัวดังกล่าวมีลักษณะสวยงามมาก น่าจะเข้าลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.สำหรับรักษาช้างป่า พ.ศ.2464 ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งระบุถึงช้างสำคัญที่มีมงคลลักษณะ 7 ประการ คือ 1.ตาขาว 2.เพดานขาว 3.เล็บขาว 4.ขนขาว 5.พื้นหนังขาวหรือสีคล้ายหม้อใหม่ 6.ขนหางขาว 7.อันฑโกศขาวหรือสีคล้ายหม้อใหม่ หรือหากมีมงคลลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 อย่างนี้ ก็เข้าลักษณะช้างสีประหลาด และอีกประเภทหนึ่งที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. ฉบับนี้คือ ช้างเนียม มีลักษณะ 3 ประการ คือ พื้นหนังดำ งามีลักษณะดังรูปปลีกล้วย และเล็บดำ ทั้งนี้เท่าที่เห็นได้จากภาพถ่ายช้างมีผิวหนังสีขาว และเล็บขาวชัดเจน อาจถูกจัดให้เข้าลักษณะช้างสีประหลาดได้ แต่ก็ต้องรอให้มีการตรวจพิสูจน์จากทางสำนักพระราชวังอย่างละเอียดอีกครั้ง “ซึ่งตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาแต่โบราณกล่าวว่าหากผู้ใดพบช้างที่มีลักษณะตามคชลักษณ์จะต้องกราบบังคมทูลให้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงทราบเสียก่อน ก่อนนำช้างขึ้นระวางและรับพระราชทานอ้อยแดง จึงจะจารึกนามว่า ช้างเผือก อย่างไรก็ตามหากพิสูจน์ว่าเป็นช้างที่มีลักษณะถูกต้องตามคชลักษณ์ ก็จะทำการคล้องช้าง และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป โดยคาดว่าขั้นตอนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์” นายมโนพัศ กล่า
ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น