การแข่งฟุตบอลเอฟเอ
คัพรอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อ 14 เม.ย. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี แชมป์เก่า
พบกับ“เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ ครึ่งแรก เกมสูสีผลัดกันรุกและรับ นาที 5 แมนฯซิตี้เกือบได้ประตู
เมื่อเซอร์จิโอ อเกโรมีโอกาสตวัดบอลบริเวณหน้าประตู แต่ปีเตอร์ เช็กพุ่งปัดไว้ได้
สองทีมเปิดเกมแลกกันสนุก
กระทั่งนาที 35
แมนฯซิต้ได้ประตูนำ เมื่อยาย่า ตูเร่ จ่ายบอลให้อเกโร่
ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่าไหลบอลต่อให้ซาเมียร์ นาสรี่
กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสยิงหนีมือเช็กเข้าไป ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เรือใบสีฟ้าพลาดได้ประตูเพิ่ม
เมื่อแวงซองต์ กอมปานีมีโอกาสยิงโล่งๆในเขตโทษ
แต่บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เกมครึ่งหลัง
เกมรุกของแมนฯซิตี้อันตรายกว่าเชลซี ทั้งอเกโร่ คาร์ลอส เตเบซ, นาสรี่ และมิลเนอร์เล่นได้เข้าขา
เริ่มมาได้เพียง 2 นาที ก็ได้ประตูที่สอง เมื่อเจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลจากด้านขวาเข้ามาในเขตโทษ
อเกโร่กระโดดโหม่งบอลเช็ดเสาเข้าประตูอย่างสวยงาม แมนฯซิตี้นำ
2-0
แต่หลังจากเชลซีต่อบอลสู้กับแมนฯซิตี้ได้อย่างสนุก
โดยราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปนปรับทัพ ส่งเฟอร์นันโด ตอร์เรส ลงแทน มิเกล กองกลางตัวรับชาวไนจีเรีย
นาที 66 เชลก็ตีไข่แตก จากลูกตวัดยิงของเด็มบา บา “สิงโตน้ำเงินคราม” แชมป์เก่าไล่มาเป็น 1-2
หลังจากนั้นเปิดเกมบุกบดใส่อย่างหนัก
เกมเดือด ทำฟาวล์กันหนักหลายครั้ง นาที 78
แวงซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมแมนฯซิตี้ได้ใบเหลือง เนื่องจากทำฟาวล์เอเดน ฮาซาร์ด
กองกลางเพื่อนร่วมชาติของเชลซี
อีกนาทีถัดมา เชลซีมีลุ้นตีเสมอ เมื่อดาวิด หลุยซ์
ยิงฟรีคิกระยะ 30 หลา บอลเฉี่ยวเสาออกไป
นาที 83 อเกโร่ย่ำใส่ดาวิด หลุยส์
ในจังหวะพยายามบังบอล แต่ผู้ตัดสินไม่ลงโทษ ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่า
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
เชลซีโหมบุกหนัก แต่ไม่สามารถยิงเพิ่มได้ หมดเวลา แมนฯซิตี้ ชนะ 2-1
ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับวีแกน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น